เซ็นทรัล รีเทล ผู้บริหารเชนร้านสะดวกซื้อ FamilyMart เริ่มทยอยปรับโฉมและเปลี่ยนป้ายหน้าร้าน FamilyMart เป็น Tops Daily การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนั้นเป็นไปตามแนวทางธุรกิจที่ ญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ประกาศเอาไว้ตั้งแต่ต้นปี
แม่ทัพ CRC ยังระบุว่า การปรับแนวทางธุรกิจจะทำให้บริษัทสามารถรองรับเทรนด์ธุรกิจ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของตลาดร้านสะดวกซื้อในไทยได้ เพราะวันนี้ความต้องการผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และร้านค้าขนาดเล็กไม่ตอบโจทย์แล้ว เพราะลูกค้าต้องการพื้นที่ในการจับจ่ายขนาดใหญ่ขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- CRC – พรีวิว 2Q66 ไตรมาสที่ไม่น่าตื่นเต้น
- ‘FamilyMart’ ผันตัวสู่ฟินเทค ชูแอป FamiPay เปิดให้กู้สินเชื่อได้สูงสุด 7.7 แสนบาท ไม่ต้องมีคนค้ำ-ให้ดอกเบี้ยต่ำ-ใช้ AI ประเมินสถานะ
แต่ FamilyMart กลับมีพื้นที่เฉลี่ยเพียง 120 ตารางเมตร ไม่ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้มากนัก ถ้าเทียบกับร้านสะดวกซื้อ Tops ที่มีขนาดพื้นที่ร้านประมาณ 250-300 ตารางเมตร ที่ตอบโจทย์ทั้งในแง่ของพื้นที่ ทำให้วางสินค้าได้อย่างหลากหลาย
ที่สำคัญจุดแข็งของร้านสะดวกซื้อ Tops ยังสามารถขยายสาขาเข้าใกล้แหล่งชุมชนได้อย่างครอบคลุม โดยตามแผนงานในปี 2566 บริษัทมีแผนขยายสาขา Tops ผ่านโมเดล Tops Market เพิ่มอีกประมาณ 15 แห่ง โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ และปริมณฑล
“ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมา แนวทางดำเนินงานของบริษัทนั้นจะมีความยืดหยุ่นกับธุรกิจในเครืออยู่ตลอดเวลา และหากพิจารณาแล้วว่า ธุรกิจไหนที่ไม่ได้สะท้อนแนวทางของบริษัท ก็อาจปรับลดบทบาทลงได้ทันที” ญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าว
ถึงกระนั้น ยังต้องจับตาดูว่าสิทธิ์แฟรนไชส์ของ FamilyMart ในไทย ที่เซ็นทรัล รีเทล ได้รับซึ่งกำลังจะหมดสัญญาในปี 2566 โดยสำนักข่าวหลายๆ แห่งก็ต่างคาดการณ์ว่าเซ็นทรัลจะไม่ต่อสัญญา พร้อมจะมีการทยอยปิดสาขาของผู้ที่หมดสัญญาแฟรนไชส์ทั้งหมด
ซึ่งว่ากันว่า ธุรกิจร้านสะดวกซื้อในรูปแบบแฟรนไชส์นั้น อาจไม่ใช่ธุรกิจที่เซ็นทรัลถนัดมากนัก
นอกจากนี้ เซ็นทรัล รีเทล ยังได้ปรับหันมาให้ความสำคัญกับการใช้แบรนด์ Tops กับธุรกิจต่างๆ ในกลุ่มสินค้าอาหาร ได้แก่ Tops, Tops Food Hall, Tops Fine Food, Tops CLUB และ Top Daily เพื่อสร้างการจดจำในกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
เมื่อเจาะลึกมาถึงเส้นทางการดำเนินธุรกิจของร้าน FamilyMart ในประเทศไทย ถือเป็นร้านสะดวกซื้อสัญชาติญี่ปุ่น ภายใต้การบริหารของแฟมิลี่มาร์ทกรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท อิโตชู จำกัด ประเทศญี่ปุ่น เข้ามาเปิดสาขาแรกในประเทศไทยเมื่อเดือนกรกฎาคม 2536 ก่อนที่จะมีสาขาครบ 100 สาขาในเดือนธันวาคม 2542
จากนั้น FamilyMart เดินหน้าขยายสาขา จนมีสาขามากถึง 500 สาขา ในปี 2551 และครบ 800 ในปี 2556 แต่แล้วเมื่อธุรกิจร้านสะดวกซื้อมีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง ทำให้ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ร้าน FamilyMart ในไทยเริ่มลดลงต่อเนื่อง จนปัจจุบันเหลือเพียง 409 สาขา โดยมีสินค้าที่เป็นจุดขายคือ เมนูโอเด้ง ที่สามารถดึงดูดผู้บริโภคเข้าร้านได้อย่างต่อเนื่อง