Facebook เครือข่ายสังคมออนไลน์ชั้นนำจากสหรัฐฯ เปิดตัว ‘แว่นตาอัจฉริยะ’ รุ่นแรกของบริษัทเมื่อวานนี้ (9 กันยายน) นับเป็นอีกหนึ่งความก้าวหน้าครั้งสำคัญของ Facebook ที่มีเป้าหมายในการพัฒนาแว่นตาเทคโนโลยีเสริมจริง หรือ Augmented Reality (AR) สำหรับอนาคต
รายงานระบุว่า แว่นตาอัจริยะรุ่นแรกของ Facebook หรือ Ray-Ban Stories นี้ เป็นความร่วมมือกับทาง EssilorLuxottica บริษัทผู้ผลิตแว่นตาแบรนด์ชั้นนำอย่าง Ray-Ban โดยแว่นตาอัจฉริยะนี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถฟังเพลง รับสายโทรศัพท์ หรือถ่ายภาพและคลิปวิดีโอสั้นๆ รวมถึงโพสต์ลงบนเครือข่ายสื่อสังคมออนไลน์ของ Facebook ได้ทันที สนนราคาอันละ 299 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 9,200 บาท)
แว่นตาของ Facebook มาในรูปลักษณ์แว่นตารุ่นยอดนิยมของ Ray-Ban จำนวน 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น Wayfarer, Round และ Meteor ที่เปิดให้ลูกค้าสามารถปรับแต่งแว่นตาได้ด้วยการเลือกสีและเลนส์ประเภทต่างๆ
Ray-Ban Stories เริ่มวางจำหน่ายที่ร้าน Ray-Ban และที่ Ray-Ban.com ในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร อิตาลี ออสเตรเลีย ไอร์แลนด์ และแคนาดา อุปกรณ์ดังกล่าวจะเปิดตัวผ่านร้านค้าปลีกอื่นๆ ซึ่งรวมถึง Amazon, Best Buy, Sunglass Hut และ LensCrafters อีกด้วย
ช่วงปีที่ผ่านมา แม้ Facebook จะมีรายได้ส่วนใหญ่มาจากยอดโฆษณาบนแพลตฟอร์มคือ ราว 86,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2020 แต่รายได้เกือบทั้งหมดของ Facebook นำไปทุ่มลงทุนในการคิดค้นพัฒนาเทคโนโลยีเสมือนจริง หรือ Virtual Reality (VR) และเทคโนโลยีเสริมจริง (AR) อย่างการพัฒนาชุดอุปกรณ์แว่นตาเสมือนจริง Oculus VR และการคิดค้นเทคโนโลยีสายรัดข้อมือเพื่อรองรับการทำงานของแว่นตา AR อีกทางหนึ่งด้วย
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ก่อตั้ง Facebook กล่าวผ่านหน้าเพจของเขาใน Facebook ว่า แว่นตาอัจฉริยะนี้จะเป็นส่วนสำคัญของการสร้างแพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์ในอนาคต ขณะที่ก่อนหน้านี้เมื่อปีที่แล้ว หัวหน้าทีมนักวิทยาศาสตร์ Facebook ได้ออกมาประเมินว่า ภายใน 5-10 ปีข้างหน้า Facebook น่าจะสามารถพัฒนาแว่นตาอัจฉริยะ AR ออกมาวางจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ได้
ขณะเดียวกันซักเคอร์เบิร์กยังใช้โอกาสนี้ยืนยันความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลผู้ใช้แว่นตาในระดับสูงสุด โดยระบุว่า Facebook จะไม่รุกล้ำเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้แว่นตาหากไม่ได้รับอนุญาต และรูปภาพหรือวิดีโอที่ถ่ายผ่านแว่นตาอัจฉริยะนี้จะจัดเก็บไว้ในแอปพลิเคชัน Facebook View ซึ่งจะไม่มีโฆษณามารบกวน
ส่วนการถ่ายรูปและวิดีโอผ่านแว่นตา Ray-Ban Stories จะใช้ระบบผู้ช่วยเสมือนจริงมารับคำสั่งถ่ายภาพด้วยเสียงของผู้ใช้ และมีแสงไฟ LED แสดงบนแว่นตา เพื่อให้คนอื่นๆ เห็นว่าผู้ใช้แว่นตากำลังบันทึกภาพหรือวิดีโออยู่
ขณะเดียวกัน Facebook ยังได้จัดทำคู่มือแนะนำให้ผู้ใช้แว่นตามีสำนึกรับผิดชอบในการใช้อุปกรณ์นี้ อย่างเช่น ต้องปิดกล้องบันทึกภาพในห้องน้ำสาธารณะ และไม่ใช้แว่นตานี้ในเรื่องที่ผิดกฎหมาย เช่น การคุกคามผู้อื่น หรือบันทึกภาพที่มีข้อมูลเป็นความลับจำพวกรหัสต่างๆ
ทั้งนี้ Facebook ไม่ใช่บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำรายแรกที่หันมามุ่งมั่นพัฒนา VR และ AR อย่างจริงจัง โดย Amazon, Google, Microsoft, Apple และ Snap ต่างระดมกำลังทั้งบุคลากรและการเงินในการพัฒนาแว่นตาอัจฉริยะ
กระนั้น แว่นตาอัจฉริยะดังกล่าว เช่น Google Glass กลับไม่ค่อยประสบความสำเร็จในด้านยอดขาย เนื่องจากราคาที่ค่อนข้างแพงและการออกแบบ ขณะที่แว่นตาอัจฉริยะของ Snap ซึ่งเปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว ไม่ได้มีไว้จัดจำหน่ายทั่วไป และเปิดให้ใช้งานเฉพาะผู้สร้าง AR เท่านั้น
ภาพ: Facebook
อ้างอิง: