Facebook รายรับไตรมาสแรกพุ่ง ยอดผู้ใช้โต แม้มีข่าวอื้อฉาว

ตั้งแต่เปิดปี 2018 มา ภาพรวมและมุมมองที่ผู้บริโภคมีต่อโซเชียลมีเดีย Facebook ก็ไม่สู้ดีเอาเสียเลย ประเดิมตั้งแต่การไล่ปรับหน้าฟีดแบบใหม่จนสื่อและคนทำคอนเทนต์ทั่วโลกโอดครวญกันระงม ตามมาติดๆ กับข้อพิพาทกรณีมีส่วนทำข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้หลุดไปยัง Cambridge Analytica มากกว่า 87 ล้านรายชื่อ จนนำไปสู่แคมเปญรณรงค์เลิกใช้ Facebook (#Deletefacebook)

แต่จากการเปิดผลประกอบการของ Facebook ช่วงไตรมาสแรกของปี 2018 (ม.ค.-มี.ค.) เมื่อวันพุธที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐอเมริกา) กลับพบว่าผลงานโดยรวมของโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่รายนี้ยังคงดีวันดีคืนสวนทางกระแสเชิงลบที่เกิดขึ้นพอสมควร

ช่วง 3 เดือนแรกของปี 2018 Facebook กวาดรายรับรวมไปที่ 11,966 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว 49% (ไตรมาสแรกปี 2017: 8,032 ล้านเหรียญสหรัฐ) ในจำนวนนี้ 98.5% แบ่งเป็นสัดส่วนรายได้จากค่าโฆษณา และเมื่อหักลบค่าดำเนินการอื่นๆ จะทำให้พวกเขามีรายรับสุทธิรวมที่ประมาณ 4,988 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว 63% (ไตรมาสแรกปี 2017: 3,064 ล้านเหรียสหรัฐ) ด้านกำไรต่อหุ้นขยับปรับขึ้น 63% เป็น 1.69 เหรียญสหรัฐต่อหุ้นเช่นเดียวกัน

ด้านตัวเลขผู้ใช้แบบรายวัน (Active User) อยู่ที่ 1,449 ล้านราย เพิ่มขึ้นจากไตรมาสสุดท้ายและไตรมาสแรกของปี 2017 ที่ 48 ล้านราย และ 165 ล้านรายตามลำดับ ส่วนยอดผู้ใช้แบบรายเดือน (Active User) ของไตรมาส 1 ปี 2018 พบว่ามีสูงถึง 2,196 ล้านราย เติบโตขึ้น 13% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว

ฝั่ง มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ผู้บริหารสูงสุดและผู้ก่อตั้ง Facebook ได้กล่าวในรายงานงบการเงินของบริษัทในช่วงไตรมาสแรกปี 2018 นี้ว่า “แม้จะเผชิญกับความท้าทายครั้งสำคัญ แต่ชุมชนและธุรกิจของพวกเราก็ยังเริ่มต้นปี 2018 ได้อย่างแข็งแกร่ง พวกเรากำลังขยายมุมมองความรับผิดชอบให้กว้างขึ้น และจะลงทุนเพื่อให้แน่ใจว่าบริการของเราถูกใช้เพื่อทำประโยชน์จริงๆ

“นอกจากนี้เรายังจำเป็นจะต้องสร้างเครื่องมือใหม่ๆ ออกมาเรื่อยๆ เพื่อช่วยให้ผู้คนได้เชื่อมโยงเข้าถึงกัน เสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนของเราและย่อโลกใบนี้ให้ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น”

ถึงจะผจญวิกฤตหนักแค่ไหนก็ต้องยอมรับว่า Facebook ยังคงเป็นองค์กรใหญ่ที่มีฐานผู้บริโภคอุ่นหนาฝาคั่งและดูท่าว่ายังไม่น่าจะล้มได้ง่ายๆ แน่นอน เพราะจากการเปิดเพอร์ฟอร์แมนซ์ในช่วง 3 เดือนแรกปี 2018 นี้ บริษัทก็ยังอยู่ในทิศทางท่ีดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผลประกอบการรายรับและยอดตัวเลขผู้ใช้

มองในอีกมุมหนึ่ง นักวิเคราะห์ด้านการตลาดหลายรายต่างก็แสดงความกังวลต่อการเติบโตของ Facebook เหมือนๆ กัน เนื่องจากพวกเขาเป็นองค์กรใหญ่ที่เกือบจะผูกขาดแพลตฟอร์มนี้ (ร่วมกับ Google) แต่กลับมีปัญหาไม่สามารถปกป้องข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ได้ รวมทั้งยังถูกวิจารณ์อย่างหนักกับข้อหาใช้ข้อมูลผู้บริโภคไปทำประโยชน์ด้านการค้า ซึ่งนักการตลาดบางคนเชื่อว่าเคส Cambridge Analytica ที่เกิดขึ้นได้บั่นทอนความเชื่อใจของผู้ใช้ Facebook ไปเรียบร้อยแล้ว และผลลัพธ์ของเหตุการณ์ทั้งหมดอาจจะเห็นได้ชัดขึ้นในระยะยาว

อ้างอิง: