ที่ผ่านมารัฐบาล โดนัลด์ ทรัมป์ พยายามสนับสนุนและบีบให้บริษัทสหรัฐฯ ลดการจ้างแรงงานต่างชาติและเพิ่มการจ้างงานชาวอเมริกันให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งบริษัทไอทีสหรัฐฯ ที่มีความจำเป็นที่จะต้องจ้างงานแรงงานทักษะสูงจากต่างชาติก็ถูกบีบให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการจ้างงานนี้ด้วย
แต่ทว่าล่าสุด กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ยื่นฟ้อง Facebook ด้วยเอกสารคำฟ้องยาว 17 หน้า กล่าวหาว่า Facebook ไม่โฆษณาตำแหน่งงานกว่า 2,600 ตำแหน่งระหว่างปี 2018-2019 ให้กับชาวอเมริกันอย่างเพียงพอ โดยตำแหน่งงานเหล่านี้กลายเป็นแรงงานต่างชาติที่ยื่นขอวีซ่าแบบ H-1B หรือวีซ่าสำหรับอาชีพความเชี่ยวชาญพิเศษได้งานไป
กระทรวงยุติธรรมอ้างว่า แม้ Facebook จะโฆษณาในสื่อท้องถิ่นหรือบนเว็บไซต์ตามกฎ แต่ก็ไม่ได้โปรโมตมากเพียงพอ รวมถึงไม่ประกาศบนเว็บไซต์หางานของตนเอง และผู้สมัครจะต้องสมัครงานเข้ามาผ่านทางอีเมล แทนที่จะสมัครได้ผ่านทางหน้าเว็บ ซึ่งยุ่งยากกว่าเดิม จนในท้ายที่สุด Facebook ได้รับใบสมัครจากชาวอเมริกันไม่เกิน 1 รายในทุกๆ ตำแหน่งที่ Facebook เปิดรับ (แทนที่ควรจะเป็นร้อยๆ ราย) นอกจากนี้ยังจ้างชาวอเมริกันที่ยื่นสมัครไปทำตำแหน่งอื่น และเก็บตำแหน่งที่ประกาศรับเอาไว้สำหรับแรงงานต่างชาติ
โดยกระทรวงยุติธรรมเข้ามาสอบสวนเรื่องนี้ หลังค้นพบว่า Facebook ยื่นเรื่องไปยังกระทรวงแรงงานเพื่อจ้างแรงงานต่างชาติในตำแหน่ง Art Director ซึ่งกระทรวงมองว่าสามารถจ้างชาวอเมริกันได้
รัฐบาล โดนัลด์ ทรัมป์ ค่อนข้างมีปัญหากับบริษัทไอที โดยเฉพาะเรื่องแรงงานต่างชาติมาโดยตลอด เนื่องจากนโยบายการสนับสนุนการสร้างงานในประเทศ อย่าง ช่วงกลางปีที่ผ่านมาก็ออกคำสั่งบริหาร ยกเลิกการออกวีซ่าประเภท H-1B เป็นการชั่วคราวจนถึงสิ้นปี
ขณะที่อัตราการปฏิเสธคำขอวีซ่า H-1B ในปี 2019 ของรัฐบาลสูงถึง 21% เมื่อเทียบกับปี 2015 ที่อยู่ที่ 6% เท่านั้น
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: