นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยนิวยอร์กในสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า Facebook พยายามที่จะกีดกันและปิดกั้นพวกเขาจากการศึกษางานวิจัยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการทำโฆษณาการเมืองแบบระบุกลุ่มเป้าหมายบนแพลตฟอร์ม (Ad Targeting) โดยให้เหตุผลว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายการ ‘ละเมิดนโยบายการเก็บรวบรวมข้อมูลผู้ใช้งาน’
ลอร่า เอเดลสัน นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก เผยผ่านโพสต์ข้อความเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ ว่า “เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Facebook ได้ส่งคำสั่งที่ระบุให้เราต้องนำเครื่องมือตรวจสอบโฆษณา Ad Observer ลงจากแพลตฟอร์ม รวมถึงลบข้อมูลทั้งหมดออกไป
“ทั้งๆ ที่สาธารณชนมีสิทธิอย่างถูกต้องที่ควรจะได้ทราบว่าโฆษณาการเมืองในช่วงเลือกตั้งมีวิธีการยิงและปรากฏไปยังกลุ่มเป้าหมายอย่างไร ดังนั้นเราจึงตัดสินใจที่จะไม่ปฏิบัติตามคำร้องของทาง Facebook”
ทั้งนี้ วิธีการทำงานของ Ad Observer คือการที่มันเป็นเครื่องมือส่วนขยายที่ถูกติดตั้งบนเบราว์เซอร์ในเดสก์ท็อปของกลุ่มตัวอย่างราว 6,500 ราย โดยเก็บข้อมูลจากการยิงโฆษณาราว 16,000 ตัวในแต่ละสัปดาห์ เพื่อศึกษาว่าการยิงโฆษณาการเมืองในช่วงก่อนการเลือกตั้งสหรัฐฯ สัมพันธ์หรือเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานอย่างไร ทั้งอายุ ภูมิลำเนาที่อยู่อาศัย ตลอดจนเกณฑ์ชี้วัดอื่นๆ
ขณะที่เหลืออีกไม่ถึง 10 วันเท่านั้นก่อนที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะมีขึ้นในวันอังคารที่ 3 พฤศจิกายนนี้ ซึ่ง Facebook จะแบนและห้ามลงโฆษณาทางการเมืองก่อนที่การเลือกตั้งสหรัฐฯ จะมีขึ้นราวหนึ่งสัปดาห์ ขณะที่ไม่มีการเปิดเผยแต่อย่างใดว่าหากนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยนิวยอร์กไม่ยอมยุติการทำงานของ Ad Observer และการศึกษาวิจัยข้อมูลบนแพลตฟอร์ม พวกเขาจะดำเนินการในขั้นตอนต่อไปเช่นไร
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: