มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งและซีอีโอเฟซบุ๊ก โพสต์ข้อความผ่านบัญชีเฟซบุ๊กของตนเองว่า เหตุการณ์น่าตกใจในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาแสดงให้เห็นชัดเจนว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์มีเจตนาที่จะใช้ช่วงเวลาที่เหลือในตำแหน่งเพื่อทำลายกระบวนการถ่ายโอนอำนาจอย่างสันติและชอบด้วยกฎหมายแก่ โจ ไบเดน ผู้สืบทอดที่ได้รับการเลือกตั้ง
การตัดสินใจของเขาที่จะใช้แพลตฟอร์ม (เฟซบุ๊ก) เพื่อไม่เอาผิด แทนที่จะประณามการกระทำของเหล่าผู้สนับสนุนเขาที่อาคารรัฐสภา (Capitol) ได้สร้างความวุ่นวายใจให้กับประชาชนในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก เราได้ลบข้อความเหล่านี้ทิ้งเมื่อวานนี้ เพราะเราเห็นว่าผลของข้อความ รวมถึงจุดประสงค์เหล่านั้นจะกระตุ้นให้เกิดความรุนแรงเพิ่มขึ้นอีก
หลังจากที่ได้รับการรับรองผลการเลือกตั้งจากสภาคองเกรสแล้ว สิ่งสำคัญลำดับแรกสำหรับประเทศในเวลานี้คือการทำให้แน่ใจว่าช่วงเวลาที่เหลืออยู่อีก 13 วัน และหลังจากพิธีสาบานตน (ของไบเดน) จะผ่านไปอย่างสงบเรียบร้อย และเป็นไปตามบรรทัดฐานประชาธิปไตยที่กำหนดไว้
ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา เราได้อนุญาตให้ประธานาธิบดีทรัมป์ใช้แพลตฟอร์มของเราตามกฎของเรา ซึ่งบางครั้งก็มีการลบเนื้อหาหรือติดแถบข้อความที่โพสต์ของเขา เมื่อเขาละเมิดนโยบายของเรา เราทำเช่นนี้เพราะเราเชื่อว่าประชาชนมีสิทธิ์ในการเข้าถึงสปีชทางการเมืองในวงกว้างที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แม้แต่สปีชที่สร้างความขัดแย้งก็ตาม แต่บริบทในปัจจุบันนั้นแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง เพราะเกี่ยวข้องกับการใช้แพลตฟอร์มของเราในการยุยงปลุกปั่นให้เกิดการจลาจลรุนแรงต่อรัฐบาลที่ได้รับเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย
เราเชื่อว่าความเสี่ยงของการอนุญาตให้ประธานาธิบดีใช้บริการของเราอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลานี้นั้นมีสูงมาก ดังนั้นเราจึงขยายเวลาการบล็อกบัญชีเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมของเขาไปอย่างไม่มีกำหนด หรืออย่างน้อยก็ในช่วงสองสัปดาห์ข้างหน้า จนกว่ากระบวนการถ่ายโอนอำนาจอย่างสันติจะเสร็จสมบูรณ์
ทั้งนี้เหตุจลาจลช็อกโลกที่อาคารรัฐสภาในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา ทำให้ทั้งเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ต่างระงับการใช้งานบัญชีของทรัมป์ชั่วคราว หลังทรัมป์ได้ส่งข้อความถึงผู้ประท้วงให้ออกมาต่อต้านการลงมติรับรองชัยชนะของ โจ ไบเดน ในสภาคองเกรส ขณะที่ผู้นำนานาชาติได้ประณามทรัมป์ว่ากำลังทำลายคุณค่าประชาธิปไตยของสหรัฐฯ
อ้างอิง:
