F1 เป็นหนึ่งในกีฬาที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และมีแฟนๆ หน้าใหม่เพิ่มขึ้นตลอดในทุกๆ ปี และในปีนี้ก็น่าจะเป็นแบบนั้นเช่นกัน
โดยศึก F1 ในฤดูกาล 2025 ใกล้จะเปิดฉากขึ้นแล้ว และวันนี้ THE STANDARD SPORT ก็มีเรื่องราวเกี่ยวกับ Race Weekend และกติกาทั่วไปเกี่ยวกับ F1 มาฝากแฟนๆ กันด้วย
ในฤดูกาล 2025 จะเริ่มเปิดฉากเรซแรกตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม ในรายการออสเตรเลียนกรังด์ปรีซ์ ก่อนไปจบฤดูกาลในวันที่ 7 ธันวาคม ที่อาบูดาบีกรังด์ปรีซ์ กินเวลาร่วม 8 เดือน
ในบรรดาการแข่งขันทั้ง 24 สนามในปีนี้ มีสนามที่จัดขึ้นในทวีปยุโรปมากที่สุด 9 สนาม รองลงมาคือทวีปเอเชีย 7 สนาม ทวีปอเมริกา (เหนือ+ใต้) 6 สนาม และทวีปออสเตรเลียอีก 1 สนาม ส่วนอีกหนึ่งสนามคือสนามลูกครึ่งในดินแดนยุโรปตะวันออกและเอเชียตะวันตกอย่างอาเซอร์ไบจาน
แต่ละสนามของ F1 จะมีเอกลักษณ์ที่ต่างกัน บ้างเป็นเรซในรูปแบบเซอร์กิต หรือสนามแข่งขันเต็มรูปแบบ บ้างเป็นสตรีทเซอร์กิตที่เอาถนนมาปรับปรุงเป็นสนามแข่งขัน และบางสนามจะแข่งขันในเวลากลางคืนเรียกว่าไนต์เรซ ซึ่งสนามที่แข่งขันกลางคืนก็มีทั้งสนามแข่งปกติและสตรีทเซอร์กิตด้วย
เอกลักษณ์ของ F1 คือการแข่งขันที่ยาวนานร่วม 8 เดือนเพื่อหาแชมป์โลก โดยแต่ละคนจะต้องเก็บคะแนนสะสมในแต่ละเรซ จนเมื่อครบ 24 สนาม คนที่ได้คะแนนมากที่สุดจะคว้าแชมป์โลกไปครอง
ในแต่ละสัปดาห์ที่มีการแข่งขันในแต่ละสนามจะถูกเรียกว่า Race Weekend ซึ่งนักแข่งจะต้องทำกิจกรรมเกือบๆ จะเหมือนกันในแต่ละสนามคือ ในวันศุกร์จะมีการฝึกซ้อม 1 ชั่วโมง 2 ครั้ง ได้แก่ Free Practice 1-2 ตามด้วยวันเสาร์จะเป็น Free Practice 3 และ Qualify ขณะที่วันอาทิตย์จะเป็นรอบ Main Race
การแข่งขันรอบ Qualify จะจัดขึ้นในช่วงบ่ายของวันเสาร์ แบ่งออกเป็น 3 ช่วง ได้แก่ ช่วง Q1, Q2 และ Q3 ซึ่งใช้เวลา 18 นาที, 15 นาที และ 12 นาที ตามลำดับ นักแข่งที่ช้าที่สุด 5 คนจะถูกคัดออกหลังจากช่วง Q1 ก่อนที่จะมีนักแข่งอีก 5 คนถูกคัดออกจากช่วง Q2 ซึ่งทั้ง 10 คนจะได้ตำแหน่งกริดสตาร์ทจากที่ 20 ขึ้นไปถึงที่ 11 ส่วนนักแข่งที่เหลืออีก 10 คนจะเข้าสู่ช่วง Q3 เพื่อตัดสินตำแหน่งกริดสตาร์ท 10 อันดับแรก โดยนักแข่งที่ทำเวลาต่อรอบเร็วที่สุดจะได้ตำแหน่ง Pole Position หรือตำแหน่งหัวแถวในการออกสตาร์ทสำหรับการแข่งขันในวันอาทิตย์
นอกจาก Race Weekend ตามปกติแล้ว F1 จะมีอยู่ 6 สนาม ได้แก่ เซี่ยงไฮ้, ไมอามี, เบลเยียม, สหรัฐอเมริกา, บราซิล และกาตาร์ ซึ่งใน 6 สนามนี้ตาราง Race Weekend จะเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย โดยวันศุกร์เริ่มต้นด้วย Free Practice 1 ก่อนที่บ่ายวันศุกร์จะมี Sprint Qualify 1-3 และวันเสาร์จะแข่งขัน Sprint Race เป็นระยะทาง 100 กิโลเมตร โดยจะมีคะแนนแจกเฉพาะผู้ที่ได้อันดับ 1-8 ด้วย
แฟนๆ F1 อาจจะต้องเจอกับปัญหาในการติดตามที่ไม่เหมือนกีฬาชนิดอื่นๆ เนื่องจาก F1 จะแข่งขันอิงตามเวลาท้องถิ่นเป็นหลัก ทำให้แฟนๆ อาจต้องเจอกับเวลาการแข่งขันแต่ละสนามที่ไม่เท่ากัน โดยอาจจะสวิงตั้งแต่บ่ายๆ ไปจนถึงกลางดึกตี 2-3 ตามเวลาประเทศไทย เลยก็มี
อ้างอิง: