ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) สร้างความประหลาดใจให้กับตลาดการเงิน ด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% สู่ระดับ 5.50% เมื่อวานนี้ (22 ส.ค.) นับเป็นการหั่นดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ในรอบ 2 เดือนของอินโดนีเซีย เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวดีขึ้น ท่ามกลางภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกและความเสี่ยงจากสงครามการค้า
เพอร์รี วาร์จิโย ผู้ว่าการธนาคารกลางอินโดนีเซีย กล่าวภายหลังการประชุมนโยบายการเงินของแบงก์ชาตินาน 2 วันว่า “การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจยังคงมีแรงขับเคลื่อนอยู่ แต่เราจำเป็นต้องดำเนินมาตรการล่วงหน้าเพื่อรับมือกับความเสี่ยงของภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจทั่วโลก”
เมื่อเดือนที่แล้ว ธนาคารกลางอินโดนีเซียเพิ่งลดดอกเบี้ยลง 0.25% ซึ่งเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2017 ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่าอินโดนีเซียได้เริ่มวงจรการผ่อนคลายนโยบายการเงิน หลังจากเมื่อปีที่แล้วแบงก์ชาติอินโดนีเซียขึ้นดอกเบี้ย 6 ครั้ง รวม 1.75%
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้สร้างความประหลาดใจให้กับตลาดการเงินเป็นอย่างมาก เพราะนักเศรษฐศาสตร์จำนวนมากคาดว่า BI จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ก่อน สืบเนื่องจากความผันผวนในตลาดในช่วงเดือนที่ผ่านมา
แต่หลังจากที่ธนาคารกลางอินโดนีเซียประกาศลดดอกเบี้ยอีกครั้ง ทำให้นักเศรษฐศาสตร์บางส่วนคาดคะเนว่าจะมีการหั่นดอกเบี้ยเพิ่มเติมในเร็วๆ นี้อีกหรือไม่ โดย โจซัว พาร์เดเด นักเศรษฐศาสตร์จาก Bank Permata ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Reuters ว่า การที่ธนาคารกลางอินโดนีเซียไม่ได้กล่าวถึงการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมในแถลงการณ์ครั้งนี้ บ่งชี้ว่าอินโดนีเซียอาจยังไม่ลดดอกเบี้ยอีกจนกว่าจะถึงสิ้นปีนี้
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: