×

ส่งออกไทยขยายตัว 17 เดือนติดต่อกัน หลังเดือน พ.ย. โต 7.1% สนค.คาดทั้งปีโต 11.6% – 12.1% ชี้บาทแข็งกระทบสินค้ามาร์จิ้นต่ำ

25.12.2025
  • LOADING...
ส่งออกไทยขยายตัว 17 เดือนติดต่อกัน หลังเดือน พ.ย. โต 7.1% สนค.คาดทั้งปีโต 11.6% - 12.1% ชี้ บาทแข็งกระทบสินค้ามาร์จิ้นต่ำ

สนค.เผยตัวเลขการส่งออกไทยเดือนพฤศจิกายนขยายตัว 7.1% โดยเร่งตัวจาก 5.7% ในเดือนก่อนหน้า ส่งผลให้การส่งออกขยายตัว 17 เดือนติดต่อกัน ส่วนตัวเลขทั้งปีคาดขยายตัว 11.6% ถึง 12.1% ก่อนจะชะลอลงเหลือ -3.1% ถึง 1.1% ในปีหน้า ชี้บาทแข็งกระทบสินค้ามาร์จิ้นต่ำโดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเกษตร

 

แนวโน้มส่งออกไทย บาทแข็งกระทบสินค้ามาร์จิ้นต่ำ

 

วันนี้ (25 ธันวาคม) นันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า แนวโน้มการส่งออกในช่วงที่เหลือของปี 2568 และปี 2569 ทาง สนค.คาดว่า การส่งออกปี 2568 จะขยายตัวมากกว่าที่คาดในระดับสองหลัก โดยได้รับแรงหนุนจากการเติบโตของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลที่มีความต้องการในระดับสูง และการดำเนินมาตรการทางการค้าของสหรัฐฯ กับจีน และประเทศต่างๆ ผ่อนคลายลงกว่าช่วงต้นปี

 

โดยประเมินการส่งออกในเดือนธันวาคม 2568 ไว้ที่ 25,000 – 26,500 ล้านดอลลาร์ และมองมูลค่าการส่งออกทั้งปีไว้ที่ 335,707 – 337,207 ล้านดอลลาร์ และมีการขยายตัวที่ 11.6% – 12.1% YoY

 

อย่างไรก็ตาม นันทพงษ์ ชี้ว่า สินค้ามาร์จิ้นต่ำจะมีความอ่อนไหวต่อการแข็งค่าของเงินบาทสูง โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มเกษตรและอาหาร ที่มีการส่งออกที่ติดลบมากกว่าสินค้าประเภทอื่นๆ สะท้อนจากการติดลบในเดือนพฤศจิกายน เพียงเดือนเดียวที่ติดลบ 15.7% เมื่อเทียบกับภาพใหญ่ 11 เดือน ที่ติดลบ 4.3%

 

สำหรับในปี 2569 สนค.คาดว่าจะเติบโตชะลอลง จากภาวะเศรษฐกิจโลกและคู่ค้าสำคัญที่ชะลอตัว ผลของมาตรการภาษีสหรัฐฯ เริ่มชัดเจนขึ้น ปัญหาด้านราคาและค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นส่งผลต่อขีดความสามารถทางการแข่งขัน ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงอยู่ และปัญหาสภาพอากาศรุนแรงจะส่งผลต่อสินค้าเกษตร เบื้องต้น สนค. ประเมินภาวะการส่งออกปี 2569 ไว้ที่ -3.1% ถึง 1.1% จากปี 2568

 

ทั้งนี้ ในปีหน้ากระทรวงพาณิชย์จะมุ่งเน้นการเร่งเจรจาความตกลง Reciprocal Trade กับสหรัฐฯ ให้แล้วเสร็จ พร้อมกับเพิ่มความเข้มงวดเรื่องถิ่นกำเนิดสินค้า รวมไปถึงกวาดล้างธุรกิจนอมินี และเดินหน้าเจรจาและผลักดันการใช้ประโยชน์จาก FTA สร้างแต้มต่อทางการค้า และร่วมมือกับภาคเอกชนผลักดันเป้าหมายการส่งออกให้เติบโตท่ามกลางอุปสงค์ที่อ่อนแอและความไม่แน่นอนที่ยังมีต่อเนื่องในปีหน้า

 

ส่องตัวเลขส่งออก 11 เดือนแรกปีนี้

 

  • ม.ค. 2568 +13.6%
  • ก.พ. 2568 +14.0%
  • มี.ค. 2568 +17.8%
  • เม.ย. 2568 +10.2%
  • พ.ค. 2568 +18.4%
  • มิ.ย. 2568 +15.5%
  • ก.ค. 2568 + 11.0%
  • ส.ค. 2568 + 5.8%
  • ก.ย. 2568 +19%
  • ต.ค. 2568 +5.7%
  • พ.ย. 2568 +7.1%

 

ทั้งนี้ การส่งออกของไทยในเดือนพฤศจิกายน 2568 มีมูลค่า 27,445.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (890,204 ล้านบาท) เติบโต 7.1% ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 17 ติดต่อกัน หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัวที่ 11.8%

 

การส่งออกยังคงได้รับแรงสนับสนุนหลักจากการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ตามวัฏจักรขาขึ้นของคอมพิวเตอร์และการเติบโตของเทคโนโลยีสมัยใหม่ AI ส่งผลให้ภาพรวมของสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัวในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง

 

อย่างไรก็ตาม ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ยังคงสร้างความไม่แน่นอนต่อการค้าในระยะข้างหน้า ด้วยสัญญาณการชะลอตัวของตลาดสำคัญ เช่น จีน ญี่ปุ่น และกลุ่มประเทศ CLMV ขณะที่การส่งออกสินค้าเกษตรของไทยยังคงอยู่ในภาวะหดตัวจากภัยพิบัติทางธรรมชาติและการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดโลก

 

ทั้งนี้ การส่งออก 11 เดือนแรกของปี 2568 มีมูลค่า 310,706.6 ล้านดอลลาร์ (10,207,181 ล้านบาท) ขยายตัวที่ 12.6% หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัวที่ 13.7%

 

ส่วนการนำเข้า มีมูลค่า 30,172.5 ล้านดอลลาร์ (991,244 ล้านบาท) ขยายตัว 17.6% ขณะที่การนำเข้าตลอด 11 เดือนแรกของปี มีมูลค่า 315,662.5 ล้านดอลลาร์ (10,493,934 ล้านบาท) ขยายตัว 12.4%

 

ส่งผลให้ดุลการค้าไทย ในเดือนพฤศจิกายน 2568 ขาดดุล 2,726.9 ล้านดอลลาร์ (หรือขาดดุล 101,040 ล้านบาท) ส่วนภาพรวม 11 เดือนแรกของปี 2568 ขาดดุล 4,956.0 ล้านดอลลาร์ (หรือขาดดุล 286,753 ล้านบาท)

 

ยันเดือนพฤศจิกายน ‘ไร้ส่งออกทองไปกัมพูชา’

 

สำหรับการส่งออกทองคำ นันทพงษ์เผยว่า การส่งออกทองคำขยายตัว 13.2% ตลอด 11 เดือนแรกของปี มูลค่าทั้งสิน 11,900.3 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 3.8% ของการส่งออก โดยตลาดที่ขยายตัวดีที่สุด ประกอบด้วย สวิตเซอร์แลนด์ กัมพูชา สิงคโปร์ ลาว

 

อย่างไรก็ตาม การส่งออกทองคำในเดือนพฤศจิกายน ติดลบ 51.2% โดยมีสาเหตุจากการขายทำกำไรในช่วงปลายปี และไม่มีการส่งออกทองคำไปกัมพูชา

 

11 เดือน ยังขาดดุลจีน เกินดุลสหรัฐฯ

 

นันทพงษ์ เผยว่า มูลค่าการส่งออกไปสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายน 2568 อยู่ที่ 6,468.9 ล้านดอลลาร์ และนำเข้า 1,752.2 ล้านดอลลาร์ ทำให้ไทยเกินดุลสหรัฐฯ 4,716.4 ล้านดอลลาร์

 

เมื่อพิจารณาการส่งออกไปยังสหรัฐฯ ในช่วง 11 เดือนแรกของปี มีมูลค่าอยู่ที่ 65,318 ล้านดอลลาร์ และมีการนำเข้า 13,052.3 ล้านดอลลาร์ เกินดุล 46,265.3 ล้านดอลลาร์

 

ขณะที่การส่งออกสินค้าไทยไปจีนตลอด 11 เดือนแรกของปี มีมูลค่าอยู่ที่ 36,588 ล้านดอลลาร์ และมีการนำเข้าที่ 97,223.5 ล้านดอลลาร์ ดุลการค้า ขาดดุล 60,646.8 ล้านดอลลาร์

 

โดยนันทพงษ์อธิบายว่า การนำเข้าจากจีนประกอบด้วยสินค้า 2 ส่วน ได้แก่ สินค้าทุน และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ใช้ภายในประเทศ ซึ่งสินค้าทุนจะสอดคล้องกับการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และมีสัดส่วนเป็นซัพพลายเออร์ค่อนข้างสูง

 

นันทพงษ์ระบุว่า สนค. จะพิจารณา 3 กลไกสำคัญในการส่งออกปีหน้า ได้แก่ ดุลการค้า, กฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า (Rule of Origin) และข้อกีดกันทางการค้าอื่นๆ ที่ไม่ใช่ภาษี (NTBs)

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising