วานนี้ (21 กุมภาพันธ์) พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) เปิดเผยว่า ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาแบบกักตัวที่บ้าน (HI) ล่าสุดมีจำนวน 3,272 ราย สะสม 52,775 ราย อยู่ระหว่างการรักษา จำนวน 21,790 ราย จำหน่ายสะสม 30,985 ราย ในส่วนของศักยภาพเตียงใน กทม. ที่รองรับผู้ป่วยโควิดจากโรงพยาบาลทั้งหมด 226 แห่ง มีเตียงรองรับทั้งหมด 44,345 เตียง แบ่งตามกลุ่ม ได้แก่ โรงพยาบาลหลัก 48 แห่ง 4,673 เตียง โรงพยาบาลสนาม 17 แห่ง 2,941 เตียง และ Hospitel 161 แห่ง 36,731 เตียง (ข้อมูลจากกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 20.00 น.)
ในส่วนของอัตราการครองเตียง ที่อยู่ในความดูแลของสำนักการแพทย์ กทม. มีจำนวนเตียงทั้งหมด 3,460 เตียง ครองเตียง 2,976 เตียง (86.01%) เตียงว่าง 484 เตียง (13.99%) โดยศูนย์พักคอย (Community Isolation) มีจำนวน 31 แห่ง รองรับผู้ป่วยได้ 3,981 เตียง โดยข้อมูล ณ วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 08.00 น. มีอัตราการครองเตียง 1,716 ราย (43.10%) คงเหลือ 2,065 เตียง แบ่งออกเป็น
- ศูนย์พักคอยที่เปิดบริการและมีผู้ป่วยเข้ารับการรักษา จำนวน 19 แห่ง 2,858 เตียง
- ศูนย์พักคอยที่เปิดบริการแต่ยังไม่มีผู้ป่วย จำนวน 7 แห่ง 648 เตียง
- ศูนย์พักคอยที่พร้อมเปิดดำเนินการ (Standby Mode) จำนวน 5 แห่ง 475 เตียง
ทั้งนี้ กทม. ได้เตรียมพร้อมศักยภาพการขยายเตียงเพื่อรองรับผู้ป่วยโควิด หากมีแนวโน้มจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น โดยผู้ติดเชื้อไม่มีอาการหรืออาการน้อย เป็นผู้ป่วยระดับสีเขียว ขอให้เข้าระบบการดูแลที่บ้านหรือชุมชน (HI/CI First) จะทำให้เตียงในโรงพยาบาลมีเพียงพอสำหรับรองรับผู้ติดเชื้อที่จำเป็นต้องใช้เตียงในโรงพยาบาล และสำรองเตียงให้กับผู้ป่วยระดับสีเหลืองและแดง รวมทั้งผู้ป่วยทั่วไปและโรคอื่นๆ ด้วย โดย กทม. ได้มอบหมายสำนักการแพทย์ สำนักอนามัย และสำนักงานประชาสัมพันธ์ ชี้แจงทำความเข้าใจและสร้างมั่นใจให้กับประชาชนว่า หากติดเชื้อโควิด และเข้าระบบการรักษาแบบ HI/CI ก็จะได้รับการรักษาตามมาตรฐานที่ดี โดยมีการติดตามประเมินอาการจากแพทย์ทุกวันจนกว่าจะหายเป็นปกติ