เมื่อช่วงบ่ายวันสุดท้ายของเดือนกรกฎาคม THE STANDARD ได้รับโอกาสพิเศษเป็นหนึ่งในสื่อกีฬาจากประเทศไทยที่ได้พูดคุยกับ คิงสเลย์ โคมัน ดาวเตะทีมชาติฝรั่งเศสของบาเยิร์น มิวนิก
ท่ามกลางบรรยากาศการเตรียมพร้อมของทีมแชมป์บุนเดสลีกาที่ประเทศสิงคโปร์ ก่อนที่เราจะไปเกาะติดการแข่งขันแมตช์อุ่นเครื่องระหว่างบาเยิร์น มิวนิก กับลิเวอร์พูล ในวันที่ 2 สิงหาคมนี้ เราได้นำบทสัมภาษณ์ที่พิเศษที่สุดครั้งหนึ่งมาให้ผู้อ่านทุกท่าน
โดยต้องยอมรับว่าโคมันเป็นมิตรและเป็นกันเองกับสื่อมวลชนจากไทย และพร้อมตอบทุกคำถามที่เกิดขึ้นในบทสัมภาษณ์ครั้งนี้
ออกเสียงชื่อตัวเองหน่อยได้ไหม เพราะคนไทยสับสนเหลือเกินว่าชื่อคุณคือโคมันหรือโกม็องกันแน่
คิงสเลย์ โคมัน: อ่านออกเสียงแบบนี้นะ คิง-สะ-เล่-โค-มัน อ่านแบบนี้เลย
การเตรียมพร้อมสำหรับฤดูกาลใหม่
คิงสเลย์ โคมัน: เราทำงานอย่างหนัก ซ้อมกัน 2 ครั้งต่อวัน ลงเกม เริ่มต้นมา 2 สัปดาห์แล้ว แต่เราก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมที่สุดสำหรับฤดูกาลใหม่
การทำงานกับ โธมัส ทูเคิล เป็นอย่างไรบ้าง
คิงสเลย์ โคมัน: มันดีนะ เขาเป็นโค้ชที่เก่ง ออกแบบการซ้อมได้ดี การซ้อมส่วนใหญ่จะเล่นกับลูกบอล ใส่ใจเรื่องการครองบอลเป็นหลัก เราทำงานกับเขามาหลายเดือนแล้ว และรู้ว่าตอนนี้เขาต้องการอะไร
คุณรู้สึกอย่างไรที่สโมสรแต่งตั้ง โธมัส ทูเคิล แทน ยูเลียน นาเกิลส์มันน์ แบบกะทันหัน
คิงสเลย์ โคมัน: ทุกคนประหลาดใจมาก ตอนนั้นเป็นช่วงพักเบรกทีมชาติ และพอข่าวออกมาเราก็ช็อกกันเลย แต่การเปลี่ยนโค้ชนั้นถือว่าโอเค เพราะเราออกสตาร์ทได้ดี เราชนะโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ตั้งแต่เกมแรกเลย จากนั้นมาเราก็มีช่วงสะดุด แต่หวังว่าพอเราเข้าใจแท็กติกของเขามากขึ้นแล้ว ผลงานกับทูเคิลก็จะดีขึ้นกว่าเดิมด้วย
ทำไมฤดูกาลที่แล้ว (2022/23) มันไม่ง่ายกว่าจะคว้าแชมป์บุนเดสลีกา
คิงสเลย์ โคมัน: เราออกสตาร์ทได้ดีในครึ่งแรกของฤดูกาล แต่พอพักเบรกฟุตบอลโลกเป็นเรื่องที่ยาก เพราะนักเตะโดนดูดพลังงานไปหมด ครึ่งฤดูกาลหลักเราเล่นได้ไม่ดีเลย แต่ก็ยังดีที่ตอนจบเราคว้าแชมป์ลีกได้
คุณอยู่บาเยิร์น มิวนิก มา 8 ปีแล้ว ข้อแตกต่างระหว่างปีแรก 2015 กับปัจจุบันนี้คืออะไรบ้าง
คิงสเลย์ โคมัน: ผมอยู่ที่นี่มา 8 ปี ผมมีประสบการณ์เยอะขึ้น และกลายเป็นกลุ่มนักเตะที่อยู่กับสโมสรมานานที่สุด คือพอคุณอยู่มา 8 ปีแล้ว คุณมีประสบการณ์มากขึ้นและรู้จักสโมสรดีแล้ว เข้าใจความหมายของ Mia san Mia และเข้าใจดีเอ็นเอของสโมสร
ดีเอ็นเอของบาเยิร์น มิวนิก คืออะไร
คิงสเลย์ โคมัน: ดีเอ็นเอของบาเยิร์น มิวนิก คือไม่มีวันยอมแพ้ เราไม่เคยมองข้ามหรือละเลยอะไรเลย เราต้องทำงานหนัก และเราต้องชนะ ชนะ ชนะ เท่านั้น
เราห้ามคิดว่า โอเค แพ้เกมเดียวไม่เป็นไรหรอก เราต้องมีจิตใจของผู้ชนะเสมอ การจะคว้าแชมป์ลีกให้ได้สิบปีซ้อนคุณต้องทำงานหนักมากจริงๆ
คุณย้ายมาสู่สโมสรและมักจะประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องกับหลายๆ ทีม เคล็ดลับคืออะไร
คิงสเลย์ โคมัน: ผมคิดว่ามีโชคเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่อีกส่วนคือผมทำงานหนักตลอดเวลา บางคนบอกว่าบาเยิร์น มิวนิก คว้าแชมป์ได้ง่ายกว่าที่นี่ แต่มันไม่ง่ายที่จะทำได้ต่อเนื่องทุกปี ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ตอนผมอยู่ก็ชนะต่อเนื่อง แต่หลังจากเขาไม่ได้แชมป์ฤดูกาลหนึ่งก็ยาก และหลังจากชัยชนะอย่างต่อเนื่อง คุณก็สูญเสียความกระหายไป แต่ที่บาเยิร์น มิวนิก เรากระหายชัยชนะตลอดเวลา
ความสำคัญของการปรับตัวและเรียนภาษาในประเทศที่เราจะเดินทางไปทำงาน?
คิงสเลย์ โคมัน: ผมคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญที่เราจะต้องแสดงความเคารพในการพยายามเรียนรู้วัฒนธรรมจากคนอื่น ผมคิดว่าเป็นการให้ความเคารพ ทั้งเข้าใจวัฒนธรรมและเรียนรู้ภาษา เพื่อเป็นส่วนหนึ่งกับประเทศและวัฒนธรรมนั้น
แน่นอนว่าภาษาก็มีทั้งยากและง่าย ในอิตาลีผมใช้เวลาหนึ่งปีในการเรียนรู้ ในเยอรมนีผมใช้เวลา 2-4 ปีก็พยายามพูดได้นิดหน่อย แต่หลังจาก 7 ปีผมก็พูดได้คล่อง แต่ก็ยังเป็นภาษาที่ยากอยู่
ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ ปี 2020 ที่ลิสบอน บาเยิร์นเจอกับเปแอสเช ที่เป็นทีมเก่าของคุณ คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง
คิงสเลย์ โคมัน: บอกตรงๆ ว่าผมไม่สนใจเลยนะ ผมคิดแค่ว่าเราจะเจอกับทีมคู่แข่งสักทีมหนึ่งแค่นั้นเลย ผมตัดทุกความรู้สึกออกไปหมดและโฟกัสแค่ชัยชนะเท่านั้น แต่พอจบเกมแล้วความรู้สึกมันก็ค่อยๆ เข้ามา เพราะผมเติบโตมาตั้งแต่เด็กที่สโมสรแห่งนั้น คือก่อนเกมคุณต้องตัดความรู้สึกทุกอย่างให้หมด และโฟกัสตรงหน้าเท่านั้น
ตอนคุณยิงประตูใส่เปแอสเชที่พาร์กเดอแพรงซ์ คุณไม่ดีใจเพื่อให้เกียรติ แต่พอยิงนัดชิงฯ แชมเปียนส์ลีกที่ลิสบอน คุณเฮคลั่งไปเลย
คิงสเลย์ โคมัน: นัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก คุณไม่สามารถห้ามตัวเองได้หรอกนาทีนั้น คือเกมปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่พาร์กเดอแพรงซ์ ถ้าผมดีใจต่อหน้าแฟนๆ เปแอสเชมันก็เกินไปหน่อย แต่กับนัดชิงแชมเปียนส์ลีกไม่มีอะไรมาขวางกั้นได้อีกแล้ว
ไปที่ฟุตบอลโลกนัดชิงชนะเลิศบ้าง คุณลงเล่นเป็นตัวสำรองนาทีที่ 60 กว่าๆ ตอนนั้นอาร์เจนตินานำ 2-0 ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ คุยอะไรบางอย่างกับคุณข้างสนาม เขาพูดอะไร เพราะพอคุณลงปุ๊บ ฝรั่งเศสก็ตีเสมอเป็น 2-2 ได้ทันที
คิงสเลย์ โคมัน: ผมจำไม่ได้ แต่เขาบอกว่าลงไปสร้างความแตกต่างในสนาม ใส่ความบ้าที่คาดเดาไม่ได้ลงไปให้กับทีม เมื่อคุณได้ลงเล่นในเกมแบบนี้ คุณต้องใช้พลังทั้งหมดที่คุณมีในชีวิตอยู่แล้ว
เกมนั้นจริงๆ ผมเล่นได้ดีนะ ประตูที่ 2 ของฝรั่งเศส ผมเป็นคนแย่งบอลจาก ลิโอเนล เมสซี ได้จนเราได้สวนแล้วยิงตีเสมอได้ ผมเล่นได้ดีจนถึงช่วงยิงจุดโทษนั่นแหละ
คุณยังเศร้าอยู่ไหมที่ยิงจุดโทษพลาดไปโดน เอมิเลียโน มาร์ติเนซ เซฟเอาไว้ได้
คิงสเลย์ โคมัน: ไม่อีกแล้ว ตอนแรกๆ มันก็ทำใจยากจริงๆ นั่นแหละ แต่ก็เหมือนทุกอย่างในชีวิต คุณต้องกลืนความเจ็บปวดเข้าไป และเอาความเจ็บปวดนั้นมาทำให้ตัวเองกระหายที่จะประสบความสำเร็จยิ่งขึ้นกว่าเดิม
วิธีเดียวที่จะลืมความเจ็บปวดคือต้องชนะทุกรายการที่ขวางหน้า ผมจึงอยากชนะให้หมดทั้งระดับสโมสรและระดับทีมชาติ
หลังจบเกม พอยิงจุดโทษพลาด มีข่าวว่าคุณโดนเหยียดผิวใช่ไหม
คิงสเลย์ โคมัน: ผมได้ยินมาแบบนั้นเหมือนกัน แต่ผมไม่ได้เห็นกับตาตัวเองนะ คือแบบนี้ ผมไม่เล่นโซเชียลมีเดีย คือดูผ่านๆ และจะอัปรูปบ้างถ้าเป็นเรื่องงาน แต่ผมจะไม่ทุ่มเทเวลากับมัน
เฟซบุ๊กของคุณอัปเดตครั้งสุดท้ายเดือนที่แล้ว?
คิงสเลย์ โคมัน: ใช่เลย! เพราะผมไม่สนใจโซเชียลมีเดีย คือผมไม่ได้ว่านักเตะบางคนที่ชอบเล่นนะ มันก็วิถีชีวิตของเขา แต่ผมเอาเวลาไปทำอย่างอื่น ไปซ้อมฟุตบอลหรืออยู่กับครอบครัวดีกว่า ผมไม่อยากเข้าอินเทอร์เน็ตไปแล้วจิตตกกับคอมเมนต์จากใครก็ไม่รู้
เวลาแข่งจบแต่ละนัด คุณย้อนกลับมาดูไฮไลต์ของตัวเองไหม
คิงสเลย์ โคมัน: ดูทุกนัด ที่บาเยิร์น มิวนิก จะมีทีมงานที่ตัดวิดีโอของนักฟุตบอลทุกคนในทุกเกม คุณจะเห็นเลยว่าตัวเองสัมผัสบอลกี่ครั้ง เลี้ยงผ่านกี่หน จ่ายเสียกี่หน ถ้าเป็นเกมที่ผมเล่นดีผมจะไม่ค่อยซีเรียส จะเปิดดูสักวันสองวันหลังแข่งจบ แต่ถ้าเกิดเป็นเกมที่ผมเล่นไม่ดี ผมจะเปิดดูคลิปวันนั้นทันที เพื่อหาคำตอบว่าทำไมผมถึงเล่นแย่และจะได้ปรับปรุงไม่ให้ตัวเองเล่นพลาดซ้ำแบบเดิมอีก
นักเตะในดวงใจเพียงหนึ่งเดียวของคุณคือใคร
คิงสเลย์ โคมัน: โรนัลดินโญ นี่คือนักเตะพรสวรรค์สูงสุดเท่าที่คุณจะนึกถึง เขาเคยอยู่เปแอสเชมาก่อนด้วย คือผมพยายามจะฝึกเทคนิคแบบเขานะ สับขาหลอก ท่าแปลกๆ คือบางท่าผมก็เลียนแบบได้ แต่ถ้าเอาไปใช้ที่บาเยิร์น มิวนิก คงโดนโค้ชด่าแน่!
ใครเป็นกองหลังที่ดีที่สุดที่เคยเจอ
คิงสเลย์ โคมัน: ฤดูกาลที่ผ่านมาผมมองว่า คนที่ผมเจอแล้วรู้สึกว่าเล่นได้ลำบากที่สุดคือการเจอกับ นาธาน เอเก ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้
จัดทีมออลสตาร์ XI นักเตะเก่งที่สุดตลอดกาลในความคิดของคุณ
คิงสเลย์ โคมัน: โอ้โห ยากนะ ผมต้องคิดก่อน ผู้รักษาประตูก็ต้องนอยเออร์
แบ็กขวาผมให้คาฟู ส่วนเซ็นเตอร์แบ็กผมอยากตอบ ฟรานซ์ เบ็กเคนบาวเออร์ แต่ผมไม่เคยเห็นเขาเล่นกับตา ดังนั้นขอเลือก เปาโล มัลดินี กับ ลิลิยอง ตูราม
แบ็กซ้ายผมอยากตอบ โรแบร์โต คาร์ลอส แต่ขอเลือกคนที่ผมเคยปะทะมาจริงๆ นั่นคือมาร์เซโลของเรอัล มาดริด นี่เป็นแบ็กซ้ายที่เก่งกาจที่สุด เขาฉลาดและเล่นดีมาก ผมเคยปะทะเขาในสนามและรู้สึกว่าเล่นด้วยยากมากๆ
กองกลางแน่นอนต้องมีซีดาน ส่วนอีกคนคือ ปาทริก วิเอรา แนวรุกผมเอา ดิเอโก มาราโดนา ยืนเป็นหมายเลข 10 แล้วด้านบน 3 คน เอา ลิโอเนล เมสซี, โรนัลดินโญ และโรนัลโด R9
ตอนนี้คุณได้แชมป์บุนเดสลีกา 8 สมัย และยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกแล้ว เป้าหมายต่อไปคือยังไงต่อ?
คิงสเลย์ โคมัน: ผมมีสัญญากับบาเยิร์น มิวนิก ถึงปี 2027 ตอนนี้ก็ยังไม่มีแผนจะไปไหน ส่วนสิ่งที่ผมอยากทำคือ คว้า 3 แชมป์ให้ได้อีกรอบ หลังจากที่เราเคยทำมาได้แล้วในฤดูกาล 2019/20
แต่ครั้งนั้นความรู้สึกของผมมันยังไม่สมบูรณ์เพราะเป็นช่วงโควิด เราคว้าแชมป์ได้โดยไม่มีแฟนๆ ร่วมเชียร์ในสนามด้วย ดังนั้นผมอยากให้แฟนๆ ได้มีส่วนร่วมกับความสำเร็จนี้อีกรอบ ถ้าได้ 3 แชมป์อีกครั้งก็คงดี
คู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดของบาเยิร์น มิวนิก ในบุนเดสลีกาของฤดูกาลนี้คือใคร
คิงสเลย์ โคมัน: น่าจะเป็นโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกล่ะ?
คิงสเลย์ โคมัน: ทุกทีม!
ใครคืออาจารย์คนสำคัญที่สุดในชีวิตของคุณ และคำสอนไหนที่คุณจดจำมาจนถึงวันนี้
คิงสเลย์ โคมัน: แท้จริงแล้วผมไม่มีอาจารย์คนใดคนหนึ่ง ผมหมายถึงผมมีคนที่ชอบอยู่บ้าง เช่น ไมเคิล จอร์แดน ผมชอบจิตวิญญาณของเขา แต่ผมก็ไม่ได้ชอบเขาทุกๆ อย่าง ผมหยิบจับเอาข้อดีบางอย่างของแต่ละคนมารวมกันและปรับจูนให้มันเข้ากับชีวิตผมที่สุด
ผมเคยถูกขอนะว่า “ช่วยให้คำแนะนำเด็กรุ่นใหม่หน่อย” แต่ผมรู้สึกว่ามันยากมากนะที่เราจะไปให้คำแนะนำกับใครสักคน เพราะแต่ละคนเกิดมาไม่เหมือนกัน มีนิสัยก็ต่างกัน
คำแนะนำบางอย่างคุณอาจทำตามได้ง่ายๆ แต่อีกคนอาจทำตามได้ยากมากๆ ดังนั้นผมคิดว่าเราไม่ควรจะเดินตามใครคนใดคนหนึ่งเป๊ะๆ ขนาดนั้น
วิธีของผมตอนเด็กคือ เอาสิ่งดีๆ มาจากแต่ละคนอย่างละนิดอย่างละหน่อย แล้วเอามาผสมให้เป็นสไตล์เฉพาะของตัวเอง
อย่าง ไมเคิล จอร์แดน ผมชอบจิตใจเป็นผู้ชนะของเขา แต่ถ้าเราไปดูประวัติก็จะเห็นว่า จอร์แดนเห็นชัยชนะอยู่เหนือทุกอย่างบนโลก ส่วนผมไม่คิดแบบนั้น ผมว่ามีบางอย่างสำคัญกับชีวิตมากกว่า
ใช่ ผมทำงานหนัก แต่พอถึงจุดหนึ่งผมก็อยากพัก อยากเล่นกับลูกสาว ผมไม่สามารถใช้ปรัชญาแบบจอร์แดนร้อยเปอร์เซ็นต์กับชีวิตของผมได้
สรุปคือทุกคนต้องหาให้เจอว่าสิ่งใดสำคัญที่สุดกับชีวิตของคุณ และหาส่วนผสมที่จะทำให้คุณมีความสุขให้ได้
คุณคิดว่า ลีกซาอุดีอาระเบียจะกลายเป็นหนึ่งในลีกที่ดีที่สุดในโลกได้หรือไม่?
คิงสเลย์ โคมัน: ไม่มีทางเป็นไปได้ ตอนนี้ต้องใช้เวลาอีกหลายปี ถึงตอนนั้นผมอาจเลิกเล่นฟุตบอลไปแล้ว คุณจะซื้อนักฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลกได้ แต่คุณก็ยังไม่มีทีมที่ดีที่สุดในโลก เพราะทุกอย่างต้องใช้เวลาสร้าง
เงินซื้อนักเตะได้ แต่ไม่สามารถซื้อทีม สร้างระบบ และซื้อประวัติศาสตร์ไม่ได้
เพราะประวัติศาสตร์ใช้เวลาสร้าง
แน่นอนว่าตอนนี้เป็นการเริ่มต้นที่ดีในการดึงนักเตะระดับโลกไป แต่ต้องดึงนักเตะที่อายุน้อยไปด้วย แต่ก็ต้องใช้เวลาสร้างอีกนานกว่าจะได้ระดับที่ใกล้กับยุโรปอย่างแน่นอน