เหตุการณ์สำคัญในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา
ตลาดหุ้นทั่วโลกซึมตัว ดอลลาร์แข็งค่า
สัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีตลาดหุ้นโลกทรงตัว รวมถึงปรับลดลงเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ตลาดเริ่มกังวลนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่ตึงตัวขึ้น ทำให้ความคาดหวังเงินเฟ้อลดลงอย่างรุนแรงและกดดันผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีสหรัฐฯ เช่นเดียวกับดอลลาร์ที่แข็งค่าต่อเนื่องจนทำให้ค่าเงินสกุลเอเชียอ่อนค่าลงมาก
ด้านดัชนี PMI จีนส่งสัญญาณชะลอลงมากขึ้น ส่วนการจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐฯ ยังขยายตัวต่อเนื่อง ทำให้ตลาดกังวลการถอนสภาพคล่องของ Fed ที่อาจเร็วขึ้น
ประเด็นที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้
- ถ้อยแถลงของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันชาติ ซึ่งอาจจะเห็นภาพของนโยบายระยะยาวและการเปิดประเทศ
- PMI ของยุโรปและจีนที่คาดว่าจะขยายตัวแบบชะลอตัวลง
- ดอกเบี้ยนโยบายของอิสราเอลและออสเตรเลียที่คาดว่าจะคงที่ แต่อาจจะเริ่มส่งสัญญาณที่ตึงตัวมากขึ้น
- คาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจของสหภาพยุโรป
มุมมองการลงทุนต่อตลาดต่างๆ
ตลาดหุ้นพัฒนาแล้ว
ความน่าสนใจระดับ: 4
ตลาดหุ้นพัฒนาแล้วยังได้รับแรงหนุนจากการดำเนินนโยบายการเงินและการคลังที่ผ่อนคลาย ความคืบหน้าการฉีดวัคซีน และผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่มีแนวโน้มออกมาดีกว่าคาดในหลายภูมิภาค
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นพัฒนาแล้วมีแนวโน้มผันผวนในระยะสั้น จากการเกิด Sector Rotation หลัง Valuation ในบาง Sector ที่เริ่มตึงตัว และแนวโน้มของ Fed ที่ส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยที่เร็วกว่าคาด รวมถึง Bond Yield อายุ 10 ปีของสหรัฐฯ ที่ยังมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น
กองทุนแนะนำ
- Principal Global Opportunity Fund หรือ PRINCIPAL GOPP-A
กองทุน PRINCIPAL GOPP-A ลงทุนในกองทุน Morgan Stanley Investment Funds Global Opportunity Fund ซึ่งมีนโยบายลงทุนในหุ้นทั่วโลกที่คาดว่าจะมีโอกาสเติบโตสูงในอนาคต
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ
ความน่าสนใจระดับ: 4
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีแนวโน้มได้รับแรงหนุนจากการทยอยเปิดเมือง และข้อมูลเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวดีขึ้น รวมทั้งมาตรการกระตุ้นจากแผนการลงทุนระยะยาวของ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ
โดย บล.ไทยพาณิชย์ แนะนำปรับสัดส่วนการถือครองหุ้นสไตล์ Growth และ Value อยู่ที่ 60:40 เนื่องจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีมีแนวโน้มได้รับอานิสงส์จาก US Yield Curve ที่มีแนวโน้มปรับลดความชันลงในช่วงสั้น เช่น หุ้นกลุ่ม Quality ในกลุ่ม Hardware Tech และ Semiconductor ขณะที่ธีม Reflation Trade และ Reopening ยังคงสนับสนุนการลงทุนหุ้นสไตล์ Value และ Cyclical นำโดยกลุ่มธนาคาร หลังผลการผ่าน Stress Test ทำให้มีแนวโน้มสามารถจ่ายปันผลได้มากขึ้น
กองทุนแนะนำ
- SCB US Equity DJI Fund
กองทุน SCBDJI(A) เป็นกองทุนที่ลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ โดยลงทุนเพื่อให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนี Dow Jones Industrial Average ซึ่งประกอบด้วยหุ้นขนาดใหญ่ 30 บริษัท ซึ่งเป็นธุรกิจชั้นนำของประเทศ และผู้นำในอุตสาหกรรมต่างๆ
ตลาดหุ้นยุโรป
ความน่าสนใจระดับ: 4
ตลาดหุ้นยุโรปยังได้แรงหนุนต่อเนื่องจากภาคบริการที่เริ่มฟื้นตัว แนวโน้ม EPS ในปี 2021 และ 2022 ยังเติบโตโดดเด่น เศรษฐกิจได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นการคลัง EU Recovery Fund ที่จะเริ่มเบิกจ่ายให้แต่ละประเทศในไตรมาส 3
นอกจากนี้ความคืบหน้าการฉีดวัคซีนที่เด่นชัด และแผนการเปิดประเทศและการท่องเที่ยวจะช่วยหนุนการฟื้นตัวภาคบริการต่อเนื่อง แต่เราเริ่มจับตาความกังวลของการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธ์เดลตาที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นใน UK และ EU บางประเทศ
กองทุนแนะนำ
- MFC Continental European Equity Fund หรือ MEURO
กองทุน MEURO ลงทุนในกองทุน BGF Continental European Flexible Fund ซึ่งลงทุนในหุ้นยุโรปภาคพื้น (ไม่รวมสหราชอาณาจักร) โดดเด่นในการสร้างผลตอบแทนย้อนหลัง รวมทั้งลงทุนแบบยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนสไตล์การลงทุนและขนาดของหุ้นได้ตามสภาวะตลาด
ตลาดหุ้นญี่ปุ่น
ความน่าสนใจระดับ: 4
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเริ่มมี Valuation ที่ถูกเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นพัฒนาแล้วอื่นๆ แม้ตัวเลขเศรษฐกิจเริ่มแผ่วลงในบางหมวด แต่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ประเมินเศรษฐกิจฟื้นตัวต่อเนื่อง และยังได้รับอานิสงส์จากวัฏจักรเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการผลิตโลกที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง
บล.ไทยพาณิชย์ มองเงินเยนที่มีแนวโน้มอ่อนค่า และ Real Yield ที่อยู่ในระดับต่ำจะช่วยหนุนการฟื้นตัวของดัชนีด้านความสำเร็จในการจัด Tokyo Olympics จะช่วยสนับสนุนการใช้จ่ายในประเทศและเรียกคะแนนความเชื่อมั่นรัฐบาลที่กำลังตกต่ำให้ฟื้นตัว
ตลาดหุ้นจีน
ความน่าสนใจระดับ: 4
ตลาดหุ้นจีนได้อานิสงส์ในช่วงการเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีพรรคคอมมิวนิสต์ และ Sentiment บวกจากการทยอยเพิ่มสัดส่วนกลุ่ม New Economy ในดัชนีหลัก ขณะที่ Valuation ตลาดหุ้นจีนยังไม่แพงเมื่อเทียบตลาดหุ้นโลก
นอกจากนี้ Valuation และผลประกอบการของกลุ่ม Big Tech ได้ตอบรับประเด็นการออกมาตรการควบคุมการผูกขาดของทางการจีนไปมากแล้ว กลุ่มจึงมี Downside จำกัดจากประเด็นดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ข้อพิพาทระหว่างจีน-ชาติตะวันตก โดยเฉพาะเรื่องสิทธิมนุษยชนในซินเจียง เอกราชของฮ่องกง และช่องแคบไต้หวัน อาจส่งผลให้ตลาดยังเคลื่อนไหวผันผวน
กองทุนแนะนำ
- SCB China A-Shares Fund หรือ SCBCHA
กองทุน SCBCHA เป็นกองทุนที่ลงทุนในหุ้นจีน A-Share โดยลงทุนเพื่อให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนี CSI 300 ซึ่งประกอบด้วยหุ้นของบริษัทที่มีการซื้อขายที่ตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้และเซินเจิ้นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดจำนวน 300 บริษัท คาดหวังผลตอบแทนใกล้เคียงกับผลตอบแทนโดยรวมของหุ้นจีน A-Share
ตลาดหุ้นไทย
ความน่าสนใจระดับ: 4
ตลาดหุ้นไทยเริ่มมี Valuation ที่น่าสนใจและความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนที่มีแนวโน้มดีขึ้น รวมถึงแผนการเปิดประเทศในช่วงเดือนตุลาคม และการนำร่องเปิดเกาะภูเก็ตตามโมเดล ‘Phuket Sandbox’ ในเดือนกรกฎาคม โดยนักลงทุนคาดหวังอานิสงส์จากการทยอยฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ มาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายในช่วงก่อนหน้าที่จะช่วยประคองอุปสงค์การบริโภคภายในประเทศ
นอกจากนี้ตลาดหุ้นไทยยังมีสัดส่วนหุ้นกลุ่ม Value และ Cyclical ค่อนข้างสูง เช่น ภาคพลังงาน ทำให้ดัชนีได้รับอานิสงส์ต่อเนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ รวมทั้งราคาน้ำมันดิบที่มีแนวโน้มทยอยฟื้นตัวต่อ
การลงทุนทางเลือก
ทองคำ
ความน่าสนใจระดับ: 1
บล.ไทยพาณิชย์ ได้ลดระดับความน่าสนใจการลงทุนในทองคำลงมาเหลือระดับต่ำสุด พร้อมกับแนะนำให้ ‘ขายทำกำไร’ เนื่องจากราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ สรอ. ที่เริ่มกลับมาแข็งค่าขึ้น จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ จากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ และความคืบหน้าการฉีดวัคซีนที่เด่นชัด รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและข้อมูลการจ้างงานที่มีแนวโน้มออกมาดีในระยะข้างหน้า อาจทำให้ Fed ส่งสัญญาณการใช้นโยบายการเงินตึงตัวเร็วกว่าคาด
น้ำมัน
ความน่าสนใจระดับ: 3
บล.ไทยพาณิชย์ ได้ปรับลดน้ำหนักการลงทุนใน ‘น้ำมัน’ ลงมาเหลือระดับ 3 เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นมากในช่วงก่อนหน้า สอดรับกับอุปสงค์การเปิดประเทศไปพอควรแล้ว
ขณะที่อุปสงค์น้ำมันมีแนวโน้มถูกกดดันจากความกังวลของการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์เดลตา ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งในยุโรปและเอเชียเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจทำให้หลายประเทศต้องเพิ่มมาตรการควบคุมมากขึ้น ด้านอุปทานน้ำมันมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น จากการประชุมเพื่อกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกพลัสในคืนวันที่ 2 กรกฎาคมนี้
REITs กลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว
ความน่าสนใจระดับ: 2
ราคาปัจจุบันของ REITs กลุ่มประเทศพัฒนาแล้วในหลายอุตสาหกรรมหลักได้ปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับก่อนเกิดโควิดแล้ว ทำให้มองว่า Upside ค่อนข้างจำกัดและ Valuation เริ่มตึงตัว รวมถึงในระยะสั้น Momentum เริ่มมีสัญญาณที่อ่อนแรงลง หลังตลาดได้รับ Sentiment เชิงลบจากความกังวลที่ Fed จะปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด
บล.ไทยพาณิชย์ จึงได้แนะนำให้ขายทำกำไร DM REITs แม้ผลประกอบการจะมีแนวโน้มฟื้นตัวจากความคืบหน้าการฉีดวัคซีนและการทยอยเปิดเมืองก็ตาม
REITs เอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น)
ความน่าสนใจระดับ: 4
REITs ไทย ได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว Valuation ยังไม่แพง ได้รับอานิสงส์จากแผนการเปิดประเทศไทยภายใน 120 วันช่วงเดือนตุลาคม ราคาปัจจุบันยัง Laggard REITs ต่างประเทศและหุ้นไทยอยู่มาก
อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อและความล่าช้าในการฉีดวัคซีนอาจยังเป็นปัจจัยกดดันราคาในระยะสั้น
กองทุนแนะนำ
- SCB Property and Infrastructure Flexible Fund หรือ SCBPINA
กองทุน SCBPINA เป็นกองทุนที่คัดเลือกลงทุนใน Property Fund REITs และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานทั้งของไทยและสิงคโปร์ โดยคัดเลือกกองทุนในกลุ่มอุตสาหกรรม (Sector) ที่มีโอกาสเติบโต มีสภาพคล่อง และคาดว่าจะสามารถจ่ายเงินปันผลได้อย่างสม่ำเสมอ