รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้กระทรวงการคลังต่ออายุมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลิตรละ 5 บาท ซึ่งกำลังจะหมดอายุลงต่อไปอีก 2 เดือน ตั้งเป้าจัดเก็บรายได้ปีงบประมาณ 2566 ที่ 2.49 ล้านล้านบาท เหตุเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวฟื้นตัว
อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยผลการประชุม ครม. เมื่อวันท่ี 13 กันยายน 2565 เห็นชอบขยายเวลาปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 5 บาท ออกไปอีก 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน – 20 พฤศจิกายนนี้ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนและภาคธุรกิจ ในช่วงที่ราคาเชื้อเพลิงต่างๆ ในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- กูรูชี้ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์กำลังเขย่าห่วงโซ่การผลิตโลก เตือนไทยมัวแต่เหยียบเรือสองแคม สุดท้ายอาจตกขบวน
- วิเคราะห์ 5 สัญญาณ บ่งชี้ เงินเฟ้อ โลกใกล้ถึงจุดพีค
- ต่างชาติแห่ปักหมุด ลงทุนเวียดนาม ยอด FDI พุ่งแซงไทยแบบไม่เห็นฝุ่น สัญญาณบ่งชี้ ไทยเริ่มไร้เสน่ห์?
พร้อมทั้งประมาณการว่า มาตรการดังกล่าวจะทำให้รายได้กระทรวงการคลังหายไปประมาณ 2 หมื่นล้านบาท คิดเป็นเดือนละ 1 หมื่นล้านบาท โดยจำนวนนี้ส่วนใหญ่เป็นรายได้ของปีงบประมาณ 2566 แต่คาบเกี่ยวปีงบประมาณ 2565 แค่ 10 วัน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเผยอีกว่า กระทรวงการคลังยังขยายมาตรการลดภาษีน้ำมันเตา เพื่อลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้าอีก 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน – 15 มีนาคมปี 2566 ทำให้รายได้จากปีงบประมาณ 2566 สูญไป 1,436 ล้านบาท
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังยังตั้งเป้าว่า การจัดเก็บรายได้ของปีงบประมาณ 2566 จะอยู่ที่ 2.49 ล้านล้านบาท เนื่องจากคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวจะดีขึ้น พร้อมเปิดเผยว่า ตามข้อมูลจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ระบุว่า ยอดนักท่องเที่ยวที่ไม่ใช่คนไทยในปีนี้แตะ 5 ล้านคนแล้ว ทำให้สิ้นปีนี้น่าจะแตะ 8 ล้านคน
ทั้งนี้ ตามข้อมูลฐานะการคลังของรัฐบาลในช่วง 10 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2565 (ตุลาคมปี 2564 – กรกฎาคมปี 2565) แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 2.02 ล้านบาท
คลังคาดจัดเก็บรายได้ปี 2565 เกินเป้าครั้งแรกตั้งแต่เกิดโควิด
ขณะที่ กฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง คาดการณ์ว่า การจัดเก็บรายได้ในปีงบประมาณ 2565 จะเกินกว่าเป้าหมายไม่ต่ำกว่า 7 หมื่นล้านบาท นับเป็นการเกินเป้าหมายครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดการระบาดใหญ่ เนื่องจากเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่ปรับตัวดีขึ้น
โดยหากนับรวมรายได้ที่หายไปจากการปรับลดภาษีน้ำมันดีเซลจำนวน 3 ครั้งอีกกว่า 6.8 หมื่นล้านบาท จะทำให้การจัดเก็บรายได้เกินกว่าเป้าหมายราว 1.3 แสนล้านบาท