หากใครที่เคยมีโอกาสได้รับชม Neon Genesis Evangelion (1995) หรือ Rebuild of Evangelion (2007-2021) ก็คงจะคุ้นหน้าคุ้นตากับเด็กหนุ่มผมสีเทาตาสีแดง อายุรุ่นราวคราวเดียวกับ ชินจิ ที่มีชื่อว่า นางิสะ คาโอรุ กันเป็นอย่างดี ที่นอกจากการมาของเขาจะไม่เพียงตอบคำถามต่างๆ ให้กับคนดู แต่เขายังเป็นตัวละครสำคัญเพียงคนเดียวที่อยากให้ชินจิมีความสุข โอบกอดเขาในฐานะเพื่อนและคนธรรมดา ไม่ใช่ในฐานะนักบินของอีวา ในวันที่โลกทอดทิ้งเขาจนไม่เหลือใครยืนเคียงข้าง
ถึงแม้คาโอรุจะเป็นตัวละครที่มีบทน้อยมากในเรื่อง แต่เขากลับกลายเป็นตัวละครที่สำคัญที่สุดตัวหนึ่งของเรื่อง โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างเขากับชินจิ เด็กหนุ่มผู้เป็นตัวเอกของเรื่อง
ซึ่งทางผู้กำกับ ฮิเดอากิ อันโนะ เจ้าของผลงานก็เคยออกมาให้คำตอบถึงความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาทั้ง 2 คนว่า
“บทบาทของคาโอรุคือ ‘ตัวตนในอุดมคติ’ ของชินจิ สำหรับชินจิแล้ว คาโอรุเป็นเพื่อนคนแรกที่เขาสามารถเปิดใจ และสนใจที่จะมีความรักแบบเพศเดียวกัน (Homosexual) ได้อีกด้วย”
คาโอรุปรากฏตัวครั้งแรกในตอนที่ 24 ของภาคทีวีซีรีส์ เมื่อชินจิกำลังสับสนถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น คาโอรุที่ปรากฏตัวขึ้นจึงได้เข้ามาพูดคุยกับชินจิถึงเรื่องเหล่านั้น พร้อมกับรับฟังปมปัญหาในใจของเขาด้วยความปรารถนาเพียงอย่างเดียว อย่างการที่อยากให้เด็กหนุ่มมีความสุข ด้วยความที่ทั้งคาโอรุและชินจิต่างก็เป็นเด็กที่ถูกเลือก นั่นจึงทำให้พวกเขาทั้งสองคนกลายเป็นเพื่อนสนิทกันในเวลาอันสั้น
แต่ก็อย่างที่หลายคนทราบกัน ชินจิ ในฐานะนักบินอีวา และคาโอรุ ในฐานะเทวทูตตนที่ 17 ผู้มีนามว่า ทาบริส ทั้งคู่ต่างมีชะตากรรมที่ไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ คาโอรุที่ค้นพบว่าแท้จริงแล้วสิ่งที่เขาตั้งใจตามหานั้นไม่มีอยู่ตั้งแต่แรก เขาจึงยอมให้ตัวเองถูกสังหารด้วยน้ำมือของเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของตน และชินจิที่ถูกบีบบังคับจากทุกคนให้สังหารเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเขา ในฐานะนักบินอีวาผู้มีหน้าที่ปกป้องโลก แม้จะไม่เต็มใจนัก แต่สุดท้ายชินจิก็สังหารเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของตนด้วยน้ำมือของตัวเอง แม้คาโอรุจะสูญเสียกายเนื้อไป แต่ด้วยความที่เขามีวิญญาณของอาดัม ซึ่งเป็นอัครเทวทูต ทำให้จิตและความทรงจำของเขาคงอยู่ได้ตลอดกาล พร้อมกับความปรารถนาที่อยากให้ชินจิมีความสุข
คาโอรุปรากฏตัวอีกครั้งในภาค Rebuild of Evangelion ในฐานะเทวทูตตนที่ 1 ที่ฟื้นขึ้นมาบนฐานปฏิบัติการบนดวงจันทร์ของเซเล่ พร้อมความปรารถนาเดิมของเขาที่อยากให้ชินจิมีความสุข ภายหลังจากที่ชินจิหลับไป 14 ปีและฟื้นขึ้นมา เขาเป็นเพียงคนเดียวที่ทำดีกับชินจิด้วยการสอนเขาเล่นเปียโน ซ่อมวอล์กแมน พูดคุยด้วยความเข้าอกเข้าใจ และคอยให้คำแนะนำที่ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกสบายใจขึ้น ทำให้สภาพจิตใจของเขาค่อยๆ ดีขึ้น หลังจากเหตุการณ์ Near Third Impact จนในที่สุดคาโอรุก็กลายเป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวที่ชินจิยอมเปิดใจและไว้ใจมากที่สุด
จากทั้งหมดที่กล่าวมา คงจะสังเกตเห็นได้ว่าคาโอรุนั้นเป็นตัวละครที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสภาพจิตใจของชินจิเป็นอย่างมาก จนอาจเรียกได้ว่าเขาเป็นเพียงคนเดียวในเรื่องหรือในโลกของอีวานเกเลียน ที่รักและทำดีกับชินจิ โอบกอดเขาในวันที่ทุกสิ่งทุกอย่างหันหลัง และผลักไสไล่ส่งเขาด้วยข้ออ้างอย่างการเป็นนักบินอีวา-01 ผู้เป็นต้นเหตุของโศกนาฏกรรมอันเลวร้ายอย่าง Near Third Impact โดยไม่ได้คำนึงว่าชินจิก็เป็นเพียงแค่เด็กคนหนึ่ง เด็กที่ต้องการเพื่อน เด็กที่ต้องการความรัก เด็กที่ต้องการใครสักคนคอยรับฟังเรื่องราวของเขาด้วยความเข้าใจ
และการมาของคาโอรุก็เปรียบเสมือนสิ่งที่เติมเต็มช่องว่างในใจเหล่านั้นด้วยสิ่งที่เรียกว่า ‘ความรักความเข้าใจ’ ให้กับเด็กหนุ่มที่ต้องเผชิญหน้ากับชะตากรรมอันน่าเศร้าและเดียวดายของตน ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียผู้เป็นแม่ไปจากอุบัติเหตุการทดลองตั้งแต่เด็ก การถูกผู้เป็นพ่อทิ้งจนกลายเป็นเด็กเก็บกด อ่อนแอ เข้ากับคนยาก ไม่มีใครเห็นความสำคัญ เพื่อนนักบินก็ช่างเย็นชาและเอาแต่ดุด่าว่าเขา จนสุดท้ายสิ่งเหล่านั้นก็ค่อยๆ ผลักให้ชินจิกลายเป็นคนที่ไม่ถูกยอมรับจากสังคม
แต่คาโอรุกลับมองว่าความอ่อนแอเหล่านั้นเป็นสิ่งล้ำค่าเหมือนแก้วที่เปราะบางน่าทะนุถนอม นั่นทำให้ชินจิรู้สึกว่าตัวตนของเขาถูกยอมรับจากสังคมเป็นครั้งแรก จนทำให้เด็กหนุ่มเปิดใจให้กับเขาด้วยความรวดเร็วจนกลายเป็นความรัก หรืออีกนัยอาจเรียกได้ว่า ความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองคนนั้นคือความรักแบบชายรักชาย (Gay) ก็อาจจะไม่ผิดนักในมุมมองของลิลิน (คำเรียกมนุษย์ภายในเรื่อง)
หากเรามองดูและเรียนรู้จากความสัมพันธ์ของคนทั้ง 2 บางทีเราอาจจะพอสังเขปได้ว่า บางครั้งเราอาจไม่ได้อยากให้โลกเข้าใจหรือยอมรับในตัวตนของเราทั้งหมด แต่เราเพียงแค่ต้องการใครสักคนที่คอยปลอบประโลมเรา โอบกอดเราด้วยความเข้าใจ ในวันที่ความอ่อนแอกัดกินจิตใจจนเกินกว่าจะก้าวต่อไปได้เท่านั้นเอง