องค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) ระบุว่า ปัจจุบันยังไม่มีข้อบ่งชี้ว่าวัคซีนโควิด-19 ของ Oxford-AstraZeneca เชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของภาวะเลือดแข็งตัว หลังหลายชาติในยุโรป รวมถึงเดนมาร์กและนอร์เวย์ ได้ระงับการฉีดวัคซีนดังกล่าวให้แก่ประชาชน สืบเนื่องจากมีรายงานว่ามีคนจำนวนน้อยเกิดภาวะเลือดเป็นลิ่มหลังรับวัคซีนไม่นาน
แถลงการณ์จากหน่วยงานของ EU ระบุว่า กรณีเลือดแข็งตัวในกลุ่มผู้ที่ได้รับวัคซีนนั้นไม่ได้สูงกว่าประชากรทั่วไป
ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า ชายอายุ 50 ปีคนหนึ่งเสียชีวิตในอิตาลีหลังเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำส่วนลึก (DVT) หลังจากที่ฉีดวัคซีน Oxford-AstraZeneca เข็มแรกได้ไม่นาน และจนถึงเวลานี้เกิดเคสภาวะลิ่มเลือดอุดตันรวม 30 กรณีในกลุ่มประชากรยุโรป 5 ล้านคนที่ได้รับวัคซีนชนิดนี้แล้ว
อย่างไรก็ตาม EMA ระบุวานนี้ (11 มีนาคม) ว่า “ณ เวลานี้ยังไม่มีข้อบ่งชี้ว่าวัคซีนเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะเหล่านี้ ซึ่งไม่ได้อยู่ในรายการผลข้างเคียงของวัคซีนชนิดนี้
“ประโยชน์ของวัคซีนยังคงมีมากกว่าความเสี่ยง และยังสามารถใช้วัคซีนนี้ต่อไปได้ในขณะที่มีการตรวจสอบกรณีลิ่มเลือดอุดตันยังดำเนินไปอยู่” EMA ระบุ
แถลงการณ์จาก EMA มีขึ้นในช่วงที่ไทยก็ประกาศเลื่อนการฉีดวัคซีน AstraZeneca ออกไปก่อน หลังมีกำหนดฉีดให้กับ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะในวันนี้ โดยไทยให้เหตุผลว่าทีมแพทย์ยังต้องหารือกันในเรื่องนี้ก่อน หลังหลายชาติในยุโรปแสดงความกังวลและระงับการฉีดวัคซีนให้ประชาชนไปก่อนหน้านี้
ภาพ: Ronny Hartmann / picture alliance via Getty Images
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
อ้างอิง: