หลายประเทศยุโรปกำลังเผชิญกับสถานการณ์ราคาพลังงานที่พุ่งสูง หลังบริษัท Gazprom ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของรัสเซีย ตัดสินใจระงับการส่งก๊าซผ่านท่อส่ง Nord Stream 1 แบบไม่มีกำหนด โดยอ้างเหตุผลจากปัญหาอุปกรณ์ขัดข้องและความยากลำบากในการซ่อมแซม อันเนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกในกรณีสงครามยูเครน พร้อมชี้ทางออกคือการ ‘ยกเลิกคว่ำบาตร’ ซึ่งดูจะเป็นไปได้ยาก
ผลกระทบที่เกิดขึ้นทำให้ราคาก๊าซธรรมชาติมาตรฐานยุโรปในวันจันทร์ (5 กันยายน) ที่ผ่านมา พุ่งทะยานขึ้นทันทีกว่า 28% และเงินยูโรอ่อนค่าลงต่ำกว่า 0.99 ดอลลาร์ต่อ 1 ยูโร ต่ำสุดในรอบ 20 ปี แน่นอนว่าจะกระทบทั้งค่าก๊าซและค่าไฟฟ้าที่ผลิตจากก๊าซธรรมชาติ
วิกฤตพลังงานที่เกิดขึ้นทำให้บรรดาชาติยุโรปต้องเร่งหาทางรับมือ โดยหลายประเทศออกแพ็กเกจวงเงินหลักหมื่นล้านดอลลาร์ช่วยเหลือประชาชนและภาคธุรกิจในการรับมือกับราคาพลังงานและค่าครองชีพที่พุ่งสูง ในขณะที่ EU เตรียมประชุมฉุกเฉินวันที่ 9 กันยายนนี้ เพื่อเร่งหาทางบรรเทาวิกฤตที่อาจสร้างความลำบากแก่ประชาชนใน EU ทั้งจากภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งสูงและฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง
ภาพประกอบ: พรวลี จ้วงพุฒซา
อ้างอิง: