สหภาพยุโรป (EU) แถลงการณ์เตือนบริษัท AstraZeneca ของสหราชอาณาจักรว่าจะคุมเข้มการส่งออกวัคซีนต้านโควิด-19 ไปยังประเทศนอกสหภาพ หลังทางบริษัทผลิตวัคซีนได้ไม่ตามเป้ากว่าครึ่ง แต่กลับสามารถส่งออกวัคซีนไปประเทศนอกยุโรปได้
ความขัดแย้งระหว่างสหภาพยุโรปและ AstraZeneca เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลัง AstraZeneca ยอมรับว่าเกิดปัญหาในกระบวนการผลิต ทำให้จำนวนวัคซีนชุดแรกที่จะส่งให้ชาติสมาชิก EU ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้
สำนักข่าว Reuters รายงานว่า AstraZeneca มีแผนส่งวัคซีนประมาณ 80 ล้านโดสให้ 27 ชาติสมาชิกสหภาพยุโรปภายในเดือนมีนาคมนี้
แต่แหล่งข่าวที่ไม่ประสงค์ออกนามเปิดเผยกับ Reuters ว่าปริมาณวัคซีนที่ AstraZeneca จะส่งให้ EU ในไตรมาสแรกของปีนี้อาจเหลือเพียง 31 ล้านโดส หรือลดลงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ถึง 60%
สเตลลา คีเรียคิเดส กรรมาธิการยุโรปด้านสาธารณสุข ประกาศว่า “EU จะใช้มาตรการที่จำเป็นเพื่อคุ้มครองประชาชนของตนเอง รวมถึงคุมเข้มการส่งออกวัคซีนที่ผลิตในชาติ EU ไปประเทศนอกสหภาพ โดยทางบริษัทผู้ผลิตต้องแจ้งล่วงหน้ากับ EU ก่อน”
เธอยังทวีตข้อความหลังประชุมร่วมกับ AstraZeneca ว่า “การหารือจบลงอย่างไม่น่าพึงพอใจ เพราะทางบริษัทไม่ชัดเจนและไม่ให้คำอธิบายที่เพียงพอ” โดยสหภาพยุโรปร้องขอให้ทางบริษัทชี้แจงแผนการจัดส่งวัคซีนอย่างละเอียดในการประชุมครั้งต่อไปที่จะมีขึ้นวันพุธนี้ (27 มกราคม)
การจัดซื้อวัคซีนจาก AstraZeneca สำหรับประเทศสมาชิก EU ทั้ง 27 ประเทศนั้น ทางสหภาพยุโรปเป็นผู้ดำเนินการจัดซื้อแทนรัฐบาลของแต่ละประเทศ
ทั้งนี้ การแจกจ่ายวัคซีนในชาติ EU กลับค่อนข้างล่าช้า เป็นผลจากบริษัท Pfizer/BioNTech ของสหรัฐฯ จัดส่งวัคซีนได้น้อยกว่าที่ตกลงไว้ บางประเทศถึงกับขู่จะฟ้องร้องทางกฎหมายกับ Pfizer/BioNTech
และมาวันนี้ AstraZeneca ยังระบุว่าจะจัดส่งวัคซีนให้ EU ได้น้อยกว่าที่ตกลงไว้กว่าครึ่ง จึงสร้างความไม่พอใจต่อสหภาพยุโรปอย่างมาก
หาก EU คุมเข้มการส่งออกวัคซีนจริงอาจกระทบต่อการส่งออกวัคซีนของบริษัทผู้ผลิตต่างๆ ที่มีฐานการผลิตอยู่ในยุโรป ทั้ง AstraZeneca และ Pfizer/BioNTech
ปัจจุบันแม้วัคซีนของ AstraZeneca ยังไม่ได้รับอนุมัติให้ใช้งานได้ในชาติ EU แต่คาดว่าองค์การยาแห่งสหภาพยุโรปจะไฟเขียวให้ใช้กับประชาชนได้ภายในสิ้นเดือนนี้
ภาพ: Punit Paranjpe / AFP
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
