เมื่อวานนี้ (25 พฤษภาคม) อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) เผยว่า ระบบพื้นฐานของใบรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) แบบดิจิทัล ที่อนุญาตให้ประชาชนเดินทางรอบสหภาพยุโรป (EU) โดยเสรี จะพร้อมใช้งานตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนเป็นต้นไป
ฟอน แดร์ ไลเอิน ประกาศหลังการประชุมสุดยอดพิเศษระหว่าง 27 ประเทศสมาชิก EU ว่า ประเทศสมาชิกสามารถเชื่อมต่อกับระบบใบรับรองดังกล่าวตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายนเป็นต้นไป และแต่ละประเทศต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อมูลใบรับรองถูกป้อนเข้าสู่ระบบสุขภาพระดับชาติของตนเอง
“ดิฉันคิดว่าใบรับรองการฉีดวัคซีนเป็นโอกาสพิเศษที่จะแสดงให้เห็นว่า EU มีส่วนช่วยให้ชีวิตประจำวันของประชาชนกลับมาเป็นปกติอย่างเป็นรูปธรรม ดังนั้นเราทุกคนต้องร่วมกันพยายามทำให้มันเกิดขึ้น”
ก่อนหน้านี้ ฟอน แดร์ ไลเอิน เผยผ่านทวิตเตอร์ว่า ประชากรผู้ใหญ่ใน EU ครึ่งหนึ่งจะได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดสแรกในสัปดาห์นี้ ขณะเดียวกันมีการส่งมอบวัคซีน 300 ล้านโดส และถูกฉีดให้ประชาชน 245 ล้านโดสแล้ว
“เรากำลังมุ่งบรรลุเป้าหมายมีวัคซีนเพียงพอจะฉีดให้ประชากรผู้ใหญ่ใน EU ร้อยละ 70 ภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ หากยังดำเนินการตามแผนต่อไป เรามั่นใจว่าจะสามารถกลับมาเปิดประเทศได้อย่างปลอดภัยอีกครั้ง”
ขณะเดียวกันคณะผู้นำ EU ได้ให้คำมั่น “เพิ่มขีดความสามารถผลิตวัคซีนทั่วโลก เพื่อตอบสนองความต้องการของโลก” หลังร่วมหารือเกี่ยวกับ ‘ความก้าวหน้าที่มั่นคง’ ระหว่างการประชุมสุดยอดระยะเวลา 2 วัน
ฟอน แดร์ ไลเอิน กล่าวหลังการประชุมว่าคณะผู้นำ EU ยังเห็นพ้องจะบริจาควัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ไปยังประเทศยากจนอย่างน้อย 100 ล้านโดสภายในสิ้นปีนี้ พร้อมชี้ว่าการบริจาคเป็นสิ่งที่ ‘จำเป็นอย่างยิ่ง’ เนื่องจากสถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย (SII) ระงับการส่งออกวัคซีนทั้งหมดสู่ COVAX จนถึงสิ้นปีนี้
Pfizer-BioNTech, Moderna และ Johnson & Johnson ตั้งเป้าหมายส่งมอบวัคซีน 1.3 พันล้านโดสในปี 2021 ให้ประเทศรายได้ต่ำโดยไม่แสวงหาผลกำไร และให้ประเทศรายได้ปานกลางในราคาถูก ขณะที่ EU วางแผนลงทุน 1,000 ล้านยูโร (ราว 3.8 หมื่นล้านบาท) เพื่อพัฒนาการผลิตวัคซีนในทวีปแอฟริกา
อ้างอิง:
- สำนักข่าวซินหัว
