ในช่วงสัปดาห์ก่อน (6 กรกฎาคม) วิทาลิก บูเทอริน ผู้ก่อตั้งเครือข่ายบล็อกเชน Ethereum ได้แสดงมุมมองเกี่ยวกับ Bitcoin ผ่าน Twitter Spaces ร่วมกับ อีริก วอลล์ ผู้เชี่ยวชาญด้านคริปโตเคอร์เรนซี และ อูดี เวอร์ไธเมอร์ นักพัฒนา Bitcoin ว่า หาก Bitcoin ต้องการเป็นมากกว่าแค่ตัวกลางในการชำระเงิน เครือข่ายดังกล่าวต้องมีวิธีในการขยายเครือข่าย (Scaling Solution) ที่มากกว่านี้
ซึ่งวิทาลิกได้ยกตัวอย่างทางเลือกที่ Bitcoin สามารถนำไปใช้ได้ อย่างเช่น Plasma หรือ ZK-Rollups (เกิดเป็น Arbitrum และ Optimism ที่สำเร็จมาแล้ว) หลังจากที่เขาเคยทดลองกับ Ethereum มาแล้ว
โดยวิทาลิกยังได้ยกตัวอย่างการทดลองอีกหลายทางที่ Ethereum ได้ทำบนเครือข่ายในช่วงที่ผ่านมาให้แก่ผู้รับฟังได้ทราบ เช่น การอัปเดตล่าสุดอย่าง EIP-4844 ที่สามารถทำธุรกรรมได้ถึง 1 แสนรายการต่อวินาที
ทั้ง 3 คนได้แสดงความเห็นกันว่า ปัญหาของเหรียญคริปโตชั้นนำอย่าง Bitcoin ในขณะนี้คือการมีธุรกรรมที่ช้า ทำให้ทางแก้ปัญหาที่ดีคือ การเพิ่มเลเยอร์ 2 เพื่อเพิ่มความเร็วในการทำธุรกรรมของเครือข่าย
แต่วิทาลิกได้ย้ำว่า อีกหนึ่งปัญหาสำคัญที่มองเห็นของ Bitcoin คือเรื่องการเมือง โดยเขาชี้ว่า เหรียญดังกล่าวมีปัญหาเชิงการเมืองที่ค่อนข้างแปลกประหลาดพอสมควร
ทั้งนี้ ในบทสนทนาดังกล่าวยังมีการพูดถึง Bitcoin Ordinals (ลักษณะเหมือน NFTs ที่อยู่บน Bitcoin) ว่าเป็นเรื่องที่ดีและเป็นสัญญาณที่ดีบนเครือข่ายของ Bitcoin
และยังมีการพูดถึงว่าทั้ง Bitcoin และ Ethereum มีจุดร่วมกันอยู่ในความยากต่อการสร้างเครือข่ายที่เป็น Decentralized (กระจายศูนย์) อย่างแท้จริง
ในท้ายที่สุดวิทาลิกได้สรุปว่า มันเป็นเรื่องดีสำหรับโลกใบนี้ที่จะมีเครือข่ายแบบนี้เกิดขึ้นสักเครือข่าย (Decentralized) แทนที่จะไม่มีเครือข่ายแบบนี้เลย
อ้างอิง:
