ครั้งแรกในรอบปีของ Ethereum 2.0 ที่ทำงานโดยกลไก Proof of Stake (POS) ได้ถูกอัปเกรด Altair บน Beacon Chian เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งทาง Ethereum Foundation ได้ออกมากล่าวว่า การอัปเกรด Altair นั้นจะเข้ามาเพิ่มฟังก์ชันการดูแลผู้ใช้งาน (Light Client Function), การปรับค่าจูงใจ และ การปรับระดับการลงโทษแก่ผู้ฝ่าฝืนบนเครือข่าย
โดยการอัปเกรดดังกล่าวจะไม่ได้กระทบกับผู้ใช้งานอื่นๆ บนเครือข่าย Ethereum ในปัจจุบัน หากแต่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับเฉพาะ Beacon Chian เท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะเข้ามามีผลกระทบกับผู้ใช้งานบนเครือข่าย Ethereum ก็ต่อเมื่อการเปลี่ยนผ่านสู่ ETH 2.0 สมบูรณ์
นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของ Altair คือการที่เพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถให้แก่ผู้ใช้งานบน Ethereum เพื่อให้สามารถทำงานได้ในสภาวะที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น อาทิ โทรศัพท์, ฮาร์ดแวร์บางชนิด, เบราว์เซอร์เอ็กเทนชัน หรือ แม้กระทั่งบนบล็อกเชนอื่นๆ ที่รองรับ Smart Contract
เหรียญ Ethereum ซึ่งเป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีอันดับต้นๆ ของตลาดแล้ว ด้วยจุดเด่น ของความสามารถที่เป็นทั้งการเก็บรักษามูลค่า (Store of Value) และ การเป็นสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) ทำให้เกิดโปรเจกต์จำนวนมากบนเครือข่ายดังกล่าว ซึ่งแต่เดิม Ethereum นั้นทำงานอยู่บนกลไก Proof of Work (การยืนยันธุกรรมโดยผ่าน Node) หรือที่เรียกกันว่าการขุด (Mine) ซึ่งมีข้อดีอย่างความปลอดภัยและการกระจายอำนาจ แต่ก็แลกมาด้วยความช้าในการประมวลผลธุรกรรม
ทางกลุ่มนักพัฒนาจึงได้เสนอทางออกของปัญหาเหล่านั้นด้วยการเปลี่ยนกลไกจาก Proof of Work ไปเป็น Proof of Stake (ซึ่งอาศัยการนำเหรียญมาวางเพื่อยืนยันธุรกรรม) หรือที่เรียกว่าการ Stake โดยเรียกการอัปเกรดครั้งใหญ่นี้ว่า Ethereum 2.0 ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2022
โดยขั้นตอนการพัฒนาของ Ethereum แบ่งไว้ 3 ขั้นตอน ได้แก่ The Beacon Chian, The Merge, Shard Chain
The Beacon Chian (Altair) เป็นขั้นตอนแรกเพื่อเตรียมการสู่การเป็น ETH 2.0 ซึ่งเป็นเครือข่ายคู่ขนานกับ Ethereum โดย Beacon Chain ในระยะดังกล่าว ออกแบบมาไว้เพียงแค่สำหรับการ Staking Ethereum เท่านั้น เพื่อรอการเปลี่ยน Ethereum ให้กลายเป็น Proof of Stake แบบสมบูรณ์ ซึ่งขั้นตอนดังกล่าวสำเร็จไปแล้วตั้งแต่ปลายปี 2019 (Phase 0)
The Merge เป็นขั้นตอนที่จะรวม Beacon Chain และ Ethereum Chain เข้าด้วยกันเมื่อตัวระบบ ETH 2.0 เสร็จสิ้น ซึ่งทาง Ethereum Foundation คาดการณ์ไว้ว่าขั้นตอนนี้จะเสร็จสิ้นประมาณปลายปี 2021 ถึงช่วงต้นปี 2022
และขั้นตอนสุดท้าย Shard Chains เป็นการสร้างบล็อกเชนอีกขั้นมาอีกเครือข่าย เพื่อทำงานคู่ขนานกับ ETH 2.0 ทำให้ Ethereum สามารถรองรับจำนวนธุรกรรมได้มากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะเกิดภายในปี 2022
ท้ายที่สุดนี้ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นหลังการอัปเกรด Altair อาจจะไม่ได้ส่งผลกระทบต่อ ผู้ใช้งาน Ethereum (รายบุคคล) หากแต่จะส่งผลกระทบต่อผู้ใข้งาน Ethereum ที่เป็นนักพัฒนา ที่ต้องการต่อยอดไปสู่ Merge มากกว่า ซึ่งในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ ทางทีมนักพัฒนาของ Ethereum Foundation และ Consensys ได้ร่วมสร้าง Testnet สำหรับการทำงานแบบ PoS (Proof of Stake) ร่วมกันทั้ง Eth 1.0 และ Eth 2.0
ในช่วงเวลาดังกล่าวทำให้ ETH สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ได้ที่ราว 4,405.5 ดอลลาร์ หรือกว่า 146,995 บาท โดยในช่วง 24 ชั่วโมงมานี้ ETH ปรับตัวมากว่า +6.93%
อ้างอิง:
- https://cryptonews.net/en/news/ethereum/2408731/
- https://ethereum.org/en/eth2/beacon-chain/
- https://ethereum.org/en/eth2/merge/
- https://ethereum.org/en/eth2/shard-chains/
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP