กลุ่มบริษัทเครื่องสำอางและน้ำหอมยักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง Estée Lauder ตกลงเข้าซื้อกิจการแบรนด์แฟชั่นและบิวตี้ของ Tom Ford ด้วยมูลค่าสูงถึง 2,800 ล้านดอลลาร์ หรือราว 99,000 ล้านบาท หลังจากที่เป็นเพียงหุ้นส่วนทางธุรกิจมาตั้งแต่ปี 2005
การยืนยันครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากมีรายงานว่า Kering เจ้าของ Gucci ที่ Tom Ford เคยทำงานด้วย เข้าเจรจาการซื้อขายแต่ไม่เป็นผลสำเร็จ และตกเป็นของบริษัทจากฝั่งอเมริกาแทน ซึ่งกลายเป็นการซื้อกิจการที่ราคาสูงที่สุดของ The Estée Lauder Companies ต่อจาก Deciem เจ้าของแบรนด์ The Ordinary เมื่อปี 2021 ที่ 2,200 ล้านดอลลาร์
โดยดีลใหญ่นี้เน้นไปที่ธุรกิจด้านบิวตี้ของ Tom Ford ไม่ว่าจะเป็นน้ำหอมหรูหลาย กลิ่น ไปจนถึงเมกอัพที่ประสบความสำเร็จทางด้านการเงินมากกว่าฝั่งเสื้อผ้า ส่วนฝั่งแฟชั่นได้มีการทำข้อตกลงระยะยาวแบบถือสิทธิ์ในการผลิตและจัดจำหน่ายกับสองบริษัทที่ทำงานกับ Tom Ford มายาวนาน ได้แก่ Ermenegildo Zegna Group ที่ดูแลฝั่งเสื้อผ้าและเครื่องประดับทั้งของผู้ชายและผู้หญิง และ Marcolin SpA ในฝั่งของแว่นตา
หลังจากแยกทางกับ Gucci ในปี 2004 ทาง Tom Ford ก็ได้ก่อตั้งแบรนด์ของตัวเองในปี 2006 โดยเปิดตัวสินค้าเพียงแค่น้ำหอมกลิ่น Black Orchid เป็นกลิ่นแรกที่ผลิตร่วมกับ Estée Lauder ก่อนจะตามมาด้วยแว่นตา อันเป็นเหมือนภาพจำของตัวดีไซเนอร์ เสื้อผ้าผู้ชายที่ทำร่วมกับแบรนด์สูทอิตาลี Ermenegildo Zegna และจึงมาเป็นเสื้อผ้าผู้หญิงในปี 2010
ความสำคัญของ Tom Ford นอกจากจะเป็นดีไซเนอร์อเมริกันที่ชุบชีวิตใหม่ให้ Gucci ในยุค 90 แล้ว เขายังเป็นทั้งผู้กำกับภาพยนตร์ เช่นเรื่อง A Single Man ที่ได้ Colin Firth และ Julianne Moore มาแสดงนำ และเข้าชิงรางวัลสาขาการแสดงทั้ง Oscars และ Golden Globes รวมไปถึงการดำรงตำแหน่งประธานของ Council of Fashion Designers of America ตั้งแต่ปี 2019-2022
ภาพ: Dimitrios Kambouris / Getty Images
อ้างอิง: