เกิดอะไรขึ้น:
เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2566 บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERW) รายงานกำไรสุทธิที่แข็งแกร่งใน 3Q66 ที่ 148 ล้านบาท ฟื้นตัวจากขาดทุนสุทธิ 12 ล้านบาท ใน 3Q65 และเพิ่มขึ้น 4%QoQ หากไม่รวมรายการพิเศษซึ่งรวมถึงค่าใช้จ่ายก่อนเปิดดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับโรงแรมในญี่ปุ่นจำนวน 8 ล้านบาท กำไรปกติอยู่ที่ 156 ล้านบาท ฟื้นตัวจากขาดทุนปกติใน 3Q65 และเพิ่มขึ้น 17%QoQ ผลประกอบการที่แข็งแกร่งได้แรงหนุนจากอัตราการเข้าพักและ ARR ที่สูงขึ้น
สำหรับประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์มีดังนี้
- การดำเนินงานแข็งแกร่งขึ้นใน 4Q66 อัตราการเข้าพักของ ERW อยู่ที่ 81-82% ใน 4Q66TD ค่อนข้างทรงตัวจาก 3Q66 เนื่องจากการดำเนินงานชะลอตัวในเดือนหลังจากเกิดเหตุกราดยิงที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน แต่ปรับตัวดีขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ปัจจัยขับเคลื่อนเชิงบวก คือ ARR ที่เพิ่มขึ้น ~5% จาก 3Q66 ERW ยังคงเป้าอัตราการเข้าพักที่ 78-80% และ ARR เพิ่มขึ้น 20%YoY ในปี 2566
- คาดโรงแรมในญี่ปุ่นจะมี EBITDA เป็นบวกในปีแรกของการดำเนินงาน ERW มองว่าแนวโน้มการท่องเที่ยวในญี่ปุ่นแข็งแกร่งซึ่งเป็นผลมาจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งจากนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในขณะที่อุปทานมีจำกัดเนื่องจากขาดแคลนที่ดินในทำเลที่มีศักยภาพ โรงแรม HOP INN 4 แห่งในญี่ปุ่นจะเริ่มเปิดดำเนินการใน 1Q67 โดยตั้งเป้าหมายว่าในปี 2567 จะมีอัตราการเข้าพัก 75% และ ARR ที่ 3,500 บาทต่อห้อง
ซึ่ง InnovestX Research คาดว่าโรงแรมในญี่ปุ่นจะมี EBITDA เป็นบวกในปีแรกของการดำเนินงาน และสร้างผลขาดทุนเล็กน้อยให้กับ ERW ในปี 2567 โดยประเมินผลขาดทุนได้ที่ 30-40 ล้านบาท ในปี 2567 คิดเป็น 4-5% ของประมาณการกำไรปี 2567
- โรงแรม HOP INN 150 แห่งในปี 2573 ERW ยังคงกลยุทธ์ระยะยาวที่มุ่งเน้นกลุ่มโรงแรมบัดเจ็ต HOP INN แต่จะขยายออกไปในต่างประเทศมากขึ้น โดยในปี 2573 บริษัทตั้งเป้าดำเนินงานโรงแรม HOP INN 150 แห่ง จำนวนห้องพัก 14,000 ห้อง แบ่งเป็น 105 แห่งในประเทศไทย (จาก 51 แห่งในปัจจุบัน) 15 แห่งในญี่ปุ่น (จาก 4 แห่งในปัจจุบัน) 14 แห่งในฟิลิปปินส์ (จาก 7 แห่งในปัจจุบัน) และที่เหลืออยู่ในประเทศที่มีศักยภาพ เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ เวียดนาม และออสเตรเลีย
กระทบอย่างไร:
ตั้งแต่การรายงานผลประกอบการ 3Q66 ราคาหุ้น ERW ปรับขึ้น 6.80% สู่ระดับ 5.50 บาท ขณะที่ SET Index ปรับลง 0.51% สู่ระดับ 1,379.04 จุด
แนวโน้มผลประกอบการปี 2566:
InnovestX Research คาดว่ากำไรปกติของ ERW จะปรับตัวดีขึ้น YoY และ QoQ ใน 4Q66 โดยได้แรงหนุนจากฤดูกาลท่องเที่ยวที่แข็งแกร่งขึ้นและ ARR ที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ERW จะบันทึกค่าใช้จ่ายก่อนเปิดดำเนินการของโรงแรม 4 แห่งในญี่ปุ่น ~30 ล้านบาท ใน 4Q66 (เพิ่มขึ้นจาก 8 ล้านบาท ใน 3Q66) ซึ่งจะส่งผลทำให้กำไรสุทธิลดลง YoY
กลยุทธ์การลงทุนให้เรตติ้ง Outperform สำหรับ ERW ด้วยราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 ที่ 6 บาทต่อหุ้น และเลือก ERW เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มท่องเที่ยว
ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตาม คือ 1. ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความต้องการเดินทาง 2. ความไม่แน่นอนทางการเมือง และ 3. ต้นทุนที่สูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไร