รัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมประกาศมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียชุดใหม่ในวันนี้ (16 เมษายน) เพื่อลงโทษรัสเซียจากกรณีที่มีส่วนรู้เห็นกับประธานาธิบดีบาชาร์อัล-อัสซาด แห่งซีเรียในการใช้อาวุธเคมีต่อสู้กับกลุ่มกบฏในสงครามกลางเมือง
มาตรการลงโทษครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่สหรัฐฯ อังกฤษ และฝรั่งเศส ได้ผนึกกำลังกันโจมตีเป้าหมายศูนย์วิจัยและคลังอาวุธเคมีหลายแห่งในซีเรียเมื่อวันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างวอชิงตันกับมอสโกทวีความตึงเครียดถึงขั้นวิกฤต สืบเนื่องจากปมขัดแย้งกรณีแทรกแซงการเลือกตั้งในสหรัฐฯ ไปจนถึงปมลอบสังหารอดีตสายลับรัสเซียในอังกฤษ นอกจากนี้สหรัฐฯ ยังไม่พอใจที่รัสเซียให้การหนุนหลังรัฐบาลอัสซาดโดยจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ทันสมัยให้กับกองทัพซีเรียเพื่อปราบกบฏ
ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เคยประกาศกร้าวไว้ว่า ประเทศที่สนับสนุนซีเรียใช้แก๊สพิษกับประชาชนจะต้องชดใช้อย่างสาสม ซึ่งรวมไปถึงพันธมิตรที่เหนียวแน่นของซีเรียอย่างรัสเซียและอิหร่านด้วย ดังนั้นมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติมในเวลานี้จึงไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจสำหรับหลายๆ ฝ่าย
สำหรับบทบาทของกองทัพสหรัฐฯ ในซีเรียหลังจากนี้ยังคงเป็นเครื่องหมายคำถามและกลายเป็นประเด็นที่อยู่ในความสนใจของผู้คนทั่วโลก หลังจากเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ทรัมป์ได้ประกาศเตรียมถอนทหารออกจากซีเรียในเร็วๆ นี้ ขณะที่ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศสเปิดเผยว่า เขาพยายามโน้มน้าวให้ทรัมป์เปลี่ยนใจ
มาครงระบุว่า “เมื่อ 10 วันที่แล้ว ประธานาธิบดีทรัมป์เปิดเผยว่า สหรัฐฯ จะถอนทหารออกจากซีเรียในเร็วๆ นี้ แต่เราขอให้เขาไตร่ตรองอีกครั้ง เนื่องจากมีความจำเป็นที่สหรัฐฯ จะอยู่ต่อ”
อ้างอิง: