ช่วงนี้ไม่ว่าจะเลื่อนฟีดไปทางไหนก็เห็นแต่คนพูดถึงซีรีส์เรื่องใหม่ของทางช่อง Netflix อย่าง Emily in Paris และหลายคนบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากกลับไปเรียนภาษาฝรั่งเศส อยากเที่ยว อยากตกหลุมรัก อยากออกไปใช้ชีวิตและกินอาหารดีๆ ที่ปารีส ซึ่งซีรีส์เรื่องนี้ก็น่าจะเป็นอีกตัวเลือกชั้นดีให้ใครก็ตามที่อยากหลีกหนีความจริงอันเลวร้ายตอนนี้และหาอะไรมาจรรโลงใจ
Emily in Paris เป็นซีรีส์ที่รวมความโรแมนติกคอเมดี้ไว้ทุกอย่างเท่าที่คุณจะนึกได้ เริ่มด้วยตัวเอกอย่าง Emily Cooper (นำแสดงโดย Lily Colins) นักการตลาดสาวชาวอเมริกันจากชิคาโกที่ส้มหล่นใส่เธอจนได้มาทำงานกับบริษัทมาร์เก็ตติ้งเอเจนซีในมหานครปารีสชื่อว่า Savoir ซึ่งเธอได้พบกกับเจ้านายคนใหม่ชาวฝรั่งเศสที่แสนจะซีเรียสชื่อว่า Sylvie (Philippine Leroy-Beaulieu) เรื่องราวความล้นๆ ของผู้หญิงอเมริกันและมาเจอกับความเคร่งครึมของชาวปารีเซียงจึงเกิดขึ้นในเอเจนซีแห่งนี้
ในทั้งหมด 10 ตอนของซีรีส์เรื่องนี้สอดแทรกไปด้วยเรื่องราวมากมาย ทั้งเรื่องความคัลเจอร์ช็อกในทำงานที่ Emily Cooper มีต่อบริษัท เนื่องจากเธอได้รับมอบหมายให้แลกเปลี่ยนมุมมองแบบอเมริกันให้กับบริษัทฝรั่งเศส การปรับตัวของ Emily Cooper ในมหานครปารีสนอกจากจะมีเรื่องภาษาแล้ว ยังมีเรื่องของการเข้าสังคม การสื่อสารภายในที่ทำงาน ความแตกต่างด้านวัฒนธรรมด้านความเชื่อและค่านิยมในสังคมของชาวอเมริกันและชาวยุโรป ซึ่งถ้าใครได้ดูก็จะรู้สึกได้ถึงความคลิเชและสเตอริโอไทป์ที่สองฝั่งมีให้กัน เช่น เรื่องกระแสเฟมินิสม์ และความบ้างานจนขาดความรื่นรมย์ในชีวิตของชาวอเมริกัน และคนอเมริกันก็จะมองคนปารีสว่าใจร้ายและไม่เป็นมิตร แต่ก็มาในเชิงอารมณ์ขันและไม่ทำให้คนดูถอยห่างแต่อย่างใด
เสน่ห์ของซีรีส์และภาพยนตร์แนวโรแมนติกคอเมดี้คือการที่ทำให้เราคล้อยตามความเพ้อฝันและความแฟนตาซีทั้งเนื้อเรื่องและตัวละคร ไม่ว่าคุณจะเถียงอยู่ในใจว่ามันจะไม่สมเหตุสมผลเท่าไรก็ตาม ซึ่งเรื่องนี้ก็เช่นกัน ที่เสิร์ฟความเพ้อฝัน ความบังเอิญแบบไร้เหตุผลในทุกๆ ตอน ตั้งแต่การมีเพื่อนบ้านเป็นหนุ่มชาวฝรั่งเศสสุดฮอตชวนฝันนาม Gabriel (นำแสดงโดย Lucas Bravo), พบกับเพื่อนสนิทคนใหม่ที่เป็นชาวอเมริกันเหมือนกันในสวนสาธารณะอย่าง Mindy (นำแสดงโดย Ashley Park) และเรื่องบังเอิญที่ดำเนินไปตลอดทั้งซีรีส์อีกมากมาย (เราขอย้ำว่ามากมายจริงๆ)
ส่วนใครที่ได้ดูซีรีส์เรื่องนี้แล้วนึกซีรีส์รุ่นเดอะอย่าง Sex and the City ขึ้นมาก็ไม่ต้องแปลกใจ เพราะเรื่องนี้ได้ Darren Star ผู้สร้างซีรีส์ในตำนานเรื่องดังกล่าวมาเป็นหัวเรือใหญ่อีกครั้ง ซึ่งอาจจะเป็นความคล้ายคลึงในอาชีพของทั้งสองคนผ่านการตีความในยุคสมัยที่แตกต่างกัน ขณะที่ Carrie Bradshaw เป็นคอลัมนิสต์ในยุครุ่งเรืองของหนังสือพิมพ์ แต่ Emily Cooper เป็นมาร์เก็ตติ้งสาวที่มีสกิลการใช้โซเชียลมีเดียอย่างช่ำชองที่จับพลัดจับผลูได้มาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ ทั้งแฟชั่น เครื่องสำอาง และเครื่องนอนเข้ากับยุคดิจิทัลในปัจจุบัน
นอกจากนี้ถ้าใครตกหลุมรักเสื้อผ้าสวยๆ ที่ Emily Cooper ใส่แล้วคิดในใจว่ามันช่างเหมาะกับเธอมากๆ ชนิดที่ว่าเวอร์เกินชีวิตจริงที่มาร์เก็ตติ้งทั่วไปจะใส่กัน และคิดว่าเธอสามารถใส่ Chanel และรองเท้า Christian Louboutin ทุกวันได้อย่างไร ก็ต้องยกความดีความชอบให้ Patricia Field สไตลิสต์ที่เคยทำให้ Carrie Bradshaw กลายเป็นแฟชั่นไอคอนแห่งวงการโทรทัศน์ รวมไปถึง The Devil Wears Prada ก็เป็นผลงานของเธอเช่นกัน
ในช่วงเวลาที่ซีรีส์ใน Netflix ด้วยกันเองห้ำหั่นกันด้วยคะแนนรีวิวที่สูงลิบและเนื้อเรื่องที่เข้มข้น ใครที่ต้องการพักการดูสารคดีหรืออยากพักสมองเล่นๆ และเปลี่ยนเป็นการเสพเป็นคอนเทนต์แนวฟีลกู๊ด หรือแนว Chick-Flick ที่เคยได้รับความนิยมอย่างมากในยุค 90-2000 Emily in Paris นับเป็นอีกหนึ่งซีรีส์จาก Netflix ที่ปล่อยมาถูกเวลา ถูกจังหวะ ถูกความต้องการของคนดูจริงๆ
สามารถชมตัวอย่างได้ที่
ภาพ: Netflix
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า