วันเวลาเดินผ่านอย่างรวดเร็ว วันนี้ (21 มกราคม) คือวันครบรอบ 1 ปี แห่งความสูญเสียที่แสนเศร้าของโลกลูกหนังเมื่อ เอมิเลียโน ซาลา กองหน้าชาวอาร์เจนไตน์ ผู้มีอนาคตที่ยาวไกล และกำลังจะได้เริ่มต้นใหม่ในฟุตบอลพรีเมียร์ลีกของอังกฤษ ประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตกในระหว่างการเดินทางจากน็องต์ไปที่เมืองคาร์ดิฟฟ์ในประเทศเวลส์
เรื่องราวที่น่าเศร้าเริ่มต้นจากข่าวดีสำหรับซาลา ที่กำลังจะได้ย้ายจากสโมสรน็องต์ เพื่อไปเล่นในลีกฟุตบอลที่ได้รับความนิยมสูงสุดของโลกอย่างพรีเมียร์ลีกอังกฤษ หลังจากที่สโมสรคาร์ดิฟฟ์ ซิตี้บรรลุข้อตกลงเป็นสถิติสโมสร 15 ล้านปอนด์ คว้าตัวกองหน้าวัย 28 ปี มาร่วมทีม
หลังจากที่ซาลาได้เดินทางมาตรวจร่างกายและเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการ เขาได้เดินทางกลับไปที่น็องต์ เพื่อเก็บข้าวของและบอกลาเพื่อนเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะโพสต์ภาพที่ถ่ายกับเพื่อนร่วมทีมและข้อความบนโซเชียลมีเดียว่า “La ulitma ciao” หรือ “การบอกลาครั้งสุดท้าย” ก่อนจะเดินทางด้วยเครื่องบินโดยสารขนาดเล็กรุ่นไปเปอร์ มาลิบู เพื่อเดินทางกลับไปคาร์ดิฟฟ์
แต่การเดินทางจากน็องต์ในเวลา 19.15 น. ที่ควรจะถึงคาร์ดิฟฟ์ในเวลา 20.45 น. กลับไม่เป็นไปตามกำหนดการ เมื่อเครื่องบินรหัส PA 46 Malibu หายไปจากจอเรดาร์ในเวลา 20.30 น. ตามการแจ้งของเจ้าหน้าที่ประจำการชายฝั่งที่หอประภาคารแคสเกตต์ ในเขตอัลเดอร์นี หมู่เกาะแชนแนล ซึ่งเป็นหมู่เกาะบริติชในช่องแคบอังกฤษ โดยตำแหน่งที่หายไปนั้นห่างจากตอนเหนือของเกาะราว 15 กิโลเมตร
ไม่มีการติดต่อใดๆ และไม่มีสัญญาณอะไรจากเครื่องบิน ซึ่งมึผู้โดยสารเพียงคนเดียวคือซาลา และอีกคนคือ นักบินเดวิด อิบบอทสัน พวกเขาหายไปจากน่านฟ้าโดยไม่มีใครทราบว่าอยู่ที่ไหน และด้วยความกลัวต่อเหตุร้าย ทำให้มีปฏิบัติการในการค้นหาและช่วยเหลือทั้งสองทันที ด้วยความหวังเล็กๆ ว่าอาจจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น แต่การค้นหาเป็นไปอย่างยากลำบาก ด้วยสภาพอากาศที่เลวร้าย
สุดท้ายไม่มีใครพบเครื่องบินลำดังกล่าว ปฏิบัติการค้นหาถูกยกเลิก และไม่เหลือความหวังใดๆ
อย่างไรก็ดี หลังการระดมทุนจากคนในโลกลูกหนัง ปฏิบัติการค้นหาได้เริ่มต้นอีกครั้ง และในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2019 ก็ได้พบซากเครื่องบินไปเปอร์ มาลิบู ที่จมอยู่ใต้ท้องทะเล และพบร่างของซาลาที่เสียชีวิตอยู่ในเครื่องบิน แต่ไม่พบร่างของนักบินอิบบอทสันแต่อย่างใด
ร่างของซาลาถูกนำกลับมาเพื่อชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต และประกอบพิธีทางศาสนา โดยผลการชันสูตรระบุว่า มีระดับคาร์บอนมอนอกไซด์ในกระแสเลือดสูง จนเป็นสาเหตุที่ทำให้หมดสติหรืออาจจะหัวใจวายได้
ในความโศกเศร้าของการจากไปของซาลาได้ทำให้เกิดปัญหาใหญ่ระหว่างคาร์ดิฟฟ์และนอริช ในเรื่องของเงินค่าตัวการย้ายทีมจำนวน 15 ล้านปอนด์ ว่าจะต้องมีการจ่ายหรือไม่ และใครจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบกันแน่ ซึ่งยิ่งสืบสวนก็ยิ่งพบความผิดสังเกตมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการจัดหาเครื่องบินและนักบิน ซึ่งไม่มีใบอนุญาตสำหรับทำการบินในเชิงพาณิชย์ และนำไปสู่การจับกุม เดวิด เฮนเดอร์สัน ที่เป็นผู้ว่าจ้างและมีส่วนในการเสียชีวิตของซาลาและนักบินในเวลาต่อมา ก่อนจะได้รับการประกันตัวออกไป
โดยที่ในเวลานี้ เรื่องยังอยู่ในกระบวนการสืบสวนและหลายๆ คำถามยังไม่เคยมีคำตอบที่ชัดเจนออกมา โดยเฉพาะคำตอบต่อครอบครัวของซาลา ที่สูญเสียสมาชิกที่เป็นกำลังสำคัญของครอบครัวไปโดยไม่มีวันกลับมา
แดเนียล แม็คโอเวอร์ ทนายความ แถลงแทนครอบครัวในวาระครบรอบ 1 ปี การจากไปของซาลา “ครอบครัวซาลาขอรำลึกการจากไปก่อนวัยอันควรของเอมิเลียอย่างเป็นส่วนตัวและเงียบสงบ เพื่อตรึกตรองถึงความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับพวกเขา
“สิ่งที่ครอบครัวให้ความสำคัญอันดับหนึ่งในเวลานี้คือ ขอให้กระบวนการสืบสวนเกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด เพื่อที่พวกเขาจะได้ทราบถึงเหตุผลที่แท้จริงว่าเกิดอะไรขึ้น และเพื่อป้องกันไม่ให้ต้องมีครอบครัวไหนที่จะต้องเจ็บปวด ด้วยการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไปแบบพวกเขาอีก”
สำหรับกระบวนการสืบสวนจะดำเนินต่อ โดยจะมีการนัดไต่สวนในวันที่ 16 มีนาคมที่จะถึงนี้ ขณะที่ในส่วนข้อพิพาทระหว่างคาร์ดิฟฟ์ ซิตี้กับน็องต์ ซึ่งสโมสรจากเวลส์ได้อุทธรณ์ต่ออนุญาโตตุลาการกีฬา (CAS) ในเรื่องการจ่ายเงินค่าตัวของซาลาที่ถูกสั่งให้ชำระจำนวน 6 ล้านยูโร คาดว่าจะมีการแถลงผลการตัดสินภายในเดือนมิถุนายนนี้
ด้านน็องต์จะมีการสวมเสื้อเพื่อรำลึกถึงอดีตกองหน้าขวัญใจของทีม ในเกมลีกนัดหน้าที่จะพบกับบอร์กโดซ์ในวันอาทิตย์หน้า และจะมีการยืนไว้อาลัยเป็นเวลา 1 นาที ในสนามด้วย