วันนี้ (9 มิถุนายน) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ลุกขึ้นตอบข้อซักถาม และการอภิปรายของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในการพิจารณา พ.ร.ก. กู้เงิน 500,000 ล้านบาทว่า ตนให้ความสำคัญในระบบรัฐสภาและให้เกียรติท่านเสมอ แต่ทุกคนก็ต้องรู้ว่าการให้เกียรติจะต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน จากการฟังท่านสมาชิกอภิปรายทำให้สะท้อนใจโดยเห็นถึงการใช้คำพูดและการใช้วาจาต่างๆ ว่าควรจะเกิดขึ้นในสภาหรือไม่ ทั้งการฉีกกระดาษไม่สมควรที่จะทำ หากจะทำให้ไปทำข้างล่างสภาดีกว่า ที่ผ่านมาไม่ทราบว่าจะดีขึ้นหรือแย่ลงแต่ตนก็เคารพอยู่ดี
พล.อ. ประยุทธ์กล่าวต่อว่า มาวันนี้ตนก็ต้องมาตอบคำถามเดิมๆ ฟังข้อมูลเก่าๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พุทธศักราช 2565 หรือพระราชกำหนดฉุกเฉิน หรือแม้แต่ พ.ร.ก. กู้เงิน 500,000 ล้าน ก็อยากจะกราบเรียนไปยังพี่น้องประชาชนว่าให้ติดตามด้วยว่าอันไหนที่ตอบไปแล้ว หรืออะไรที่ท่าน ส.ส. พูดออกมาว่าเป็นข้อเท็จจริงหรือไม่ อย่าดูถูกประชาชน
“สำหรับสถานการณ์โควิด-19 ในวันนี้จะต้องถามว่ามันจะสามารถจบได้หรือไม่ และหากไม่จบเมื่อไรก็ไม่สามารถที่จะตอบได้ แต่เราก็ต้องเตรียมความพร้อม งบประมาณของภาครัฐจัดเก็บไม่เพียงพองบเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ไม่ใช่ที่จะอนุมัติเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้วจะเบิกจ่ายได้อย่างง่าย ท่านไม่เคยทำหรือ ที่ท่านอยากให้เร็วแสดงว่าท่านไม่เคยทำ รัฐบาลทำงานด้วยความละเอียดเนื่องจากต้องมีการทบทวนโครงการต่างๆ อย่างรอบคอบ โดยการที่ท่านก็กล่าวหาว่าผมทุจริต ก็ให้ไปว่ากันในกระบวนการยุติธรรม แต่โชคดีว่าที่สภามีเอกสิทธิ์คุ้มครองถ้าท่านไปพูดข้างนอกแบบนี้ก็มีปัญหาเหมือนกัน พวกที่ชอบพูดข้างนอกก็ระวังด้วยแล้วกัน ในวันนี้ผมนำข้อเท็จจริงมาสู้กับท่าน ไม่ได้นำเรื่องบิดเบือนมาพูดกับท่าน ผมเป็นคนหนึ่งที่ผ่านการถวายสัตย์ปฏิญาณตนมาแล้วว่า ผมจะเป็นคนที่ไม่พูดโกหก เป็นคนซื่อสัตย์สุจริตจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ นั่นคือผม”
พล.อ. ประยุทธ์ยังกล่าวอีกกว่า “ท่านพูดแล้วพูดอีกคำเดิมไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ GDP เรื่องหนี้สาธารณะ ผมก็ไม่สามารถที่จะโง่ไปกู้เงินให้เต็มเพดานเกินที่กฎหมายกำหนดที่ 60% ได้”
สำหรับประเด็นเรื่องของวัคซีนไม่ต้องกลัว อย่างไรก็แล้วแต่ยืนยันว่ารัฐบาลจัดหาให้ได้เสมอ โดยการสั่งซื้อวัคซีนของ Sinovac ที่รัฐบาลเคยสั่งซื้อไปก่อนหน้านี้ แล้วมาปัจจุบันไม่เพียงพอต่อจำนวนประชากรนั้นเนื่องจากพิจารณาในขณะนั้นแล้วว่าเป็นวัคซีนที่จะต้องฉีดในประชาชนที่อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ไม่เหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุและเด็ก แต่ขณะนี้ผลการทดสอบออกมาว่าสามารถฉีดได้ ซึ่งจากที่หลายฝ่ายเกรงว่าวัคซีนที่รัฐบาลจัดหามาจะไม่มีประสิทธิภาพนั้น ต้องย้อนกลับไปถามทุกท่านว่าดูข้อมูลมาจากที่ไหน เขาก็ออกมายืนยันกันแล้วว่ามีประสิทธิภาพกี่เปอร์เซ็นต์ ยี่ห้อใดก็ไม่สำคัญหาก อย. ภายในประเทศไม่ได้เป็นผู้รับรองมาตรฐาน ซึ่งหากท่านมองว่าวัคซีนที่รัฐบาลจัดหามาไม่มีประสิทธิภาพ ท่านก็มาช่วยรัฐบาลแก้ปัญหา ช่วยหาวัคซีนมาให้สิ ติดต่อบริษัทใดได้บ้างบอกมาเลย หากนำเข้ามากันส่งเดชอนาคตจะกลายเป็นวัคซีนปลอมหรือเปล่าก็ไม่รู้
พล.อ. ประยุทธ์ ยืนยันว่าทุกจังหวัดจะต้องได้รับวัคซีนในการฉีดครบถ้วนทั่วประเทศ โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้กระจายวัคซีน ซึ่งจะได้มากน้อยเท่าใดก็ต้องขึ้นอยู่กับประชากรภายในจังหวัดนั้น และหากพื้นที่ใดที่เป็นพื้นที่สีแดง ก็ต้องสมทบวัคซีนลงสู่พื้นที่เพื่อให้สามารถเปิดจังหวัดได้ เช่น การแพร่ระบาดในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
ขณะเดียวกันรัฐบาลจะให้ความสำคัญในเรื่องของอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้งบประมาณไปกว่า 3 หมื่นรายการ ปรับปรุงก่อสร้างโรงพยาบาลและสร้างศูนย์การแพทย์ไปกว่า 786 แห่ง เห็นอย่างนี้แล้วทำไมรัฐบาลถึงจะไม่ให้ความสำคัญ ซึ่งทุกประเทศผู้นำโดนหมด แต่ไม่เห็นประเทศใดจะชิงชังกันเท่าประเทศไทยเลย
อย่างไรก็ตาม พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวว่า “ผมได้อดทนถึงที่สุดแล้ว ทุกท่านก็จะรู้นิสัยผมอยู่ ผมเคารพและให้เกียรติท่านเสมอ ท่านก็ต้องรู้จักการให้เกียรติคนอื่นบ้าง ซึ่งบรรยากาศการประชุมเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาที่ได้มีการด่านายกฯ ไล่นายกฯ ออกไปสักที มันใช่ที่หรือไม่ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าที่รัฐสภาสามารถทำอะไรได้บ้าง เช่น เมื่อเช้านี้เอาผู้ต้องหามาแถลงข่าวสู้คดีที่ข้างล่างรัฐสภา มันเกิดอะไรขึ้นในประเทศไทยผมก็ไม่รู้”
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์