Emergency Declaration ไฟลต์คลั่ง ฝ่านรกชีวะ คือภาพยนตร์แนวหายนะทางการบินเรื่องแรกจากเกาหลีใต้ โดยฝีมือการกำกับของ ฮันแจริม จาก The Face Reader (2013) และ The King (2017) และยังคับคั่งไปด้วยทีมนักแสดงนำระดับแถวหน้าของเกาหลีใต้อย่าง ซงคังโฮ, อีบยองฮอน, จอนโดยอน, คิมนัมกิล, อิมชีวาน, คิมโซจิน, พัคแฮจุน และ ซอลอินอา
ภาพยนตร์เล่าถึงหายนะครั้งใหญ่บนเที่ยวบิน KI501 ที่เดินทางจากกรุงโซลสู่เกาะฮาวาย เมื่อจู่ๆ มีผู้โดยสารรายหนึ่งเสียชีวิตลงอย่างปริศนา จนทำให้ผู้โดยสารที่เหลือเริ่มวิตกกังวลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางกัปตันจึงตัดสินใจประกาศเหตุฉุกเฉินและขอลงจอดกะทันหัน แต่กลับไม่มีสนามบินไหนอนุญาตให้เครื่องบินลงจอด เนื่องจากพบความจริงว่ามีผู้ก่อการร้ายแอบแฝงอยู่ในเครื่องบินลำดังกล่าว ที่ต้องการฆ่าทุกชีวิตบนเครื่องบินด้วยอาวุธชีวภาพ เรื่องราวการเอาชีวิตรอดของผู้โดยสารเที่ยวบิน KI501 จึงเริ่มต้นขึ้น
เพื่อให้ทุกคนได้เห็นภาพรวมของเรื่องราวชัดเจนขึ้นอีกสักหน่อย ภาพยนตร์จะแบ่งการเล่าเรื่องออกเป็นสองส่วนควบคู่กันไปคือ เหตุการณ์ความวุ่นวายของผู้โดยสารและลูกเรือบนเที่ยวบิน KI501 พร้อมกับเหตุการณ์ภาคพื้นดินที่ตำรวจทีมสืบสวนและเจ้าหน้าที่รัฐ ต่างระดมกำลังเพื่อหาวิธีช่วยเหลือผู้คนบนเครื่องบิน
นี่คือจุดเด่นข้อแรกที่เราอยากหยิบยกมากล่าวถึง เพราะผู้กำกับและทีมสร้างค่อนข้างสลับการเล่าเรื่องระหว่างสองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมกันออกมาได้อย่างเหมาะสม ไม่มีเนื้อหาช่วงไหนที่ดูล้นเกินไปหรือน้อยเกินไป ทั้งการค่อยๆ ไต่ระดับความระทึกของเหตุการณ์จาก ‘วันธรรมดาๆ วันหนึ่ง’ ไปสู่ ‘หายนะระดับชาติ’ รวมถึงการผูกโยงปมปัญหาและการเปิดเผยความจริงที่ส่งผลกระทบถึงกันได้อย่างชวนติดตาม
ซึ่งส่วนตัวผู้เขียนค่อนข้างชื่นชอบการนำเสนอของเหตุการณ์ภาคพื้นดินเป็นพิเศษ ด้วยความที่ Emergency Declaration พยายามนำเสนอให้เราเห็นมาตั้งแต่ตัวอย่างว่า สิ่งที่ทุกคนได้สัมผัสในภาพยนตร์แน่ๆ คือความระทึกขวัญจากเหตุการณ์เอาชีวิตรอดของผู้คนบนเที่ยวบินนรก
แต่ภาพยนตร์กลับใส่รายละเอียดของเหตุการณ์บนภาคพื้นดินออกมาได้อย่างสนุกสนานกว่าที่เราคาดหวังไว้พอสมควร ไม่ว่าจะเป็นความเข้มข้นจริงจังในการสืบสวนหาความจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ความซับซ้อนและอ่อนไหวของการขออนุญาตให้เครื่องบินที่กำลังเกิดเหตุร้ายลงจอดฉุกเฉินในสนามบินต่างประเทศ ไปจนถึงประเด็นที่เราชื่นชอบมากๆ อย่างการจำลองภาพให้เราเห็นว่า หากเกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกับในภาพยนตร์ขึ้นจริงๆ ผู้คนในสังคม โดยเฉพาะ ‘สังคมออนไลน์’ จะมีปฏิกิริยาต่อเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างไรบ้าง
ซึ่งประเด็นตรงนี้แหละที่ผู้กำกับหยิบมาใช้เป็นแกนหลักสำคัญของเรื่อง นั่นคือการขยายภาพให้เราเห็นว่า ‘ความกลัว’ ไม่ได้เป็นแรงผลักดันให้มนุษย์พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อเอาชีวิตรอดอย่างเดียวเท่านั้น แต่มันยังแสดงให้เราเห็นถึงความ ‘อ่อนแอ’ ของมนุษย์ได้อย่างชัดเจนอีกด้วย
อีกหนึ่งประเด็นที่หลายๆ คนกล่าวถึงหลังจากได้ชมตัวอย่างคือ Emergency Declaration ดูจะมีมู้ดแอนด์โทนของเรื่องคล้ายๆ กับ Train to Busan (2016) ของผู้กำกับ ยอนซังโฮ พอสมควร ยกตัวอย่างเช่นตัวละครหลักของเรื่องอย่าง แจฮยอก (อีบยองฮอน) ที่ต้องคอยดูแลลูกสาวของตัวเองให้ปลอดภัยจากวิกฤตบนเครื่องบิน ก็ชวนให้เราคิดถึงตัวละครสองพ่อลูกที่นำแสดงโดย กงยู และ คิมซูอัน ใน Train to Busan ไปจนถึงงานสร้างที่ยิ่งใหญ่สมกับคำว่าภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์
โดยส่วนตัวผู้เขียนคิดว่า Emergency Declaration และ Train to Busan จะมีความเหมือนกันในแง่ของเซ็ตติ้งคือ ‘หายนะ’ และ ‘การเอาตัวรอดในพื้นที่จำกัด’ แต่สิ่งที่ทำให้ Emergency Declaration แตกต่างจาก Train to Busan อย่างชัดเจนคือรายละเอียดปลีกย่อยที่ผู้กำกับต้องการนำเสนอ
ยกตัวอย่างเช่น Train to Busan จะมีการผสมผสานระหว่างความระทึกขวัญและแอ็กชันที่ตัวละครต้องเผชิญหน้ากับฝูงซอมบี้ ไปพร้อมกับการพาผู้ชมไปสำรวจเรื่องราวของตัวละครเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่ Emergency Declaration ดูจะมีความระทึกขวัญมากกว่า แอ็กชันน้อยกว่า มีการลงรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ย่อยๆ เยอะกว่า และมีการพาผู้ชมไปสำรวจเรื่องราวของตัวละครน้อยกว่า ดังที่เรากล่าวไปแล้วข้างต้น
อีกหนึ่งจุดเด่นที่เราชื่นชอบและอยากกล่าวถึงคืองานโปรดักชันสุดเนี้ยบ ทั้งงานภาพ แสง และดนตรีประกอบ ซึ่งทำหน้าที่พาผู้ชมขึ้นไปนั่งบนเครื่องบินพร้อมกับเที่ยวบิน KI501 และค่อยๆ ไต่ระดับให้ผู้ชมรู้สึกลุ้นระทึกไปพร้อมกับตัวละครได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการบันทึกเสียงเครื่องยนต์ เสียงลม และเสียงเอฟเฟ็กต์ต่างๆ ที่ถือเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ภาพยนตร์สมจริงสมจังมากขึ้นหลายเท่าตัว
ในภาพรวมแล้ว Emergency Declaration นับว่าเป็นภาพยนตร์แนวหายนะทางการบินเรื่องแรกจากเกาหลีใต้ที่สร้างความลุ้นระทึกให้กับเราได้เป็นอย่างดี และมีกลวิธีนำเสนอที่สนุกสนานชวนให้เราติดตาม โดยเฉพาะพาร์ตการช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดิน ที่เสริมให้เนื้อหาของภาพยนตร์มีความน่าสนใจมากกว่าแค่ความระทึกขวัญ
Emergency Declaration มีกำหนดเข้าฉายวันที่ 4 สิงหาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์
รับชมตัวอย่างได้ที่นี่