xAI บริษัทสตาร์ทอัพด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของ Elon Musk กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาข้อตกลงกับ Tesla เพื่อให้ Tesla เข้าถึงเทคโนโลยีและทรัพยากรของ xAI ได้ ในขณะที่ xAI จะได้รับส่วนแบ่งรายได้จาก Tesla เป็นการตอบแทน
The Wall Street Journal รายงานว่า ภายใต้ข้อตกลงที่เสนอ Tesla จะได้รับอนุญาตให้ใช้โมเดล AI ของ xAI เพื่อพัฒนาซอฟต์แวร์ช่วยขับขี่อัตโนมัติ Full Self-Driving (FSD) และแบ่งปันรายได้บางส่วนจากบริการนี้ให้กับ xAI นอกจากนี้ xAI ยังจะช่วยพัฒนาฟีเจอร์อื่นๆ ให้กับ Tesla เช่น ผู้ช่วยเสียงแบบ Siri และซอฟต์แวร์สำหรับหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ Optimus
สัดส่วนการแบ่งรายได้จะขึ้นอยู่กับระดับการใช้งานเทคโนโลยีของ xAI โดยผู้บริหาร xAI หารือเกี่ยวกับการแบ่งรายได้จาก FSD ของ Tesla แบบ 50/50
ข้อตกลงนี้สะท้อนให้เห็นถึงแนวทางการดำเนินธุรกิจของ Elon Musk ที่มักจะแบ่งปันทรัพยากรและเทคโนโลยีระหว่างบริษัทต่างๆ ของเขา อย่างไรก็ตาม การแบ่งปันทรัพยากรระหว่าง Tesla ซึ่งเป็นบริษัทมหาชน กับ xAI ซึ่งเป็นบริษัทเอกชน ก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับผลประโยชน์ทับซ้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีผู้ถือหุ้น Tesla หลายรายยื่นฟ้องบริษัท โดยอ้างว่าการโยกย้ายทรัพยากรไปยัง xAI ส่งผลเสียต่อนักลงทุนของ Tesla
xAI ว่าจ้างพนักงานจาก Tesla หลายคน รวมถึงผู้ที่เคยทำงานในทีม Autopilot ที่มุ่งเน้นการพัฒนาความสามารถในการขับขี่ด้วยตนเอง นอกจากนี้ Musk ยังโยกย้าย GPU ของ NVIDIA จำนวนมากจาก Tesla ไปยัง xAI เมื่อปีที่แล้ว
ในการนำเสนอแก่นักลงทุน ตัวแทนของ xAI อธิบายว่า บริษัทจะเป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีที่สำคัญสำหรับผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ของ Tesla ในอนาคต Musk ยังเคยถามผู้ใช้ X ว่า Tesla ควรลงทุน 5 พันล้านดอลลาร์ใน xAI หรือไม่ และสองวันต่อมาเขาโพสต์ว่า “ดูเหมือนว่าสาธารณชนจะเห็นด้วย (เขา) จะหารือกับคณะกรรมการของ Tesla”
Musk เคยให้สัมภาษณ์ว่า Tesla ได้เรียนรู้อะไรมากมายจากการพูดคุยกับวิศวกรของ xAI ซึ่งช่วยเร่งการพัฒนา FSD และการสร้างศูนย์ข้อมูลใหม่ของ Tesla นอกจากนี้ เขายังกล่าวว่ามีโอกาสที่จะรวมแชตบอต Grok ของ xAI เข้ากับซอฟต์แวร์ของ Tesla
Tesla กำลังเผชิญกับความท้าทายจากการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ส่งผลให้ยอดขายและกำไรของบริษัทลดลง และราคาหุ้นลดลงประมาณ 14% ในปีนี้
Musk เดิมพันอนาคตของ Tesla ไว้กับหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ FSD เป็นบริการที่คิดค่าบริการรายเดือน 99 ดอลลาร์ หรือค่าธรรมเนียมคงที่ 8,000 ดอลลาร์ ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่ Tesla สามารถใช้งานระบบช่วยขับขี่อัตโนมัติได้ แต่ยังคงต้องจับพวงมาลัยอยู่ นอกจากนี้ Tesla ยังกำลังพัฒนา Robotaxi ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวในวันที่ 10 ตุลาคม แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะเปิดให้บริการแก่สาธารณะเมื่อใด
Musk เคยให้สัญญาไว้ว่า FSD จะก้าวหน้ามากพอที่จะทำให้รถ Tesla ทุกคันสามารถขับเคลื่อนได้อย่างอิสระ และบอกว่าความสำเร็จนี้อาจทำให้ Tesla กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์ เขายังกล่าวอีกว่า Tesla จะ “ไม่มีค่าอะไรเลย” หากไม่มีระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติเต็มรูปแบบ
อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่าข้อตกลงกับ xAI จะส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายของ Tesla อย่างไร และ Tesla จะบรรลุเป้าหมายในการพัฒนาเทคโนโลยี AI และหุ่นยนต์ได้ตามที่คาดหวังไว้หรือไม่ ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดอนาคตของบริษัทในระยะยาว
ภาพ: Costfoto / NurPhoto via Getty Images
อ้างอิง: