อีลอน มัสก์ ผู้เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ถึงขั้นเอ่ยปากเตือนด้วยตัวเองว่า Tesla จะเผชิญกับ ‘ความท้าทายครั้งใหญ่’ ในการขยายการผลิตในโรงงานของ Cybertruck ที่ล่าช้ามายาวนาน ซึ่งส่งสัญญาณถึงผลกำไรที่จะตกอยู่ภายใต้แรงกดดันต่อไป
คำพูดของมัสก์เกิดขึ้นในระหว่างเผยผลประกอบการประจำไตรมาสล่าสุด ที่กำไรลดลง 44% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ แน่นอนกำไรที่ลดลงมาจากราคาที่ยักษ์รถไฟฟ้าพยายามหั่นลงเพื่อกระตุ้นความต้องการรถยนต์รุ่นเก่า ซึ่งบางรุ่นเพิ่งมีการปรับปรุงเล็กน้อยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยกลยุทธ์ดังกล่าวได้บั่นทอนความสามารถในการทำกำไร
ราคาเริ่มต้นในสหรัฐอเมริกาสำหรับรถยนต์ Tesla บางรุ่นลดลงประมาณ 1 ใน 3 ในปีนี้ เทียบให้เห็นภาพคือ Tesla ขายได้โดยเฉลี่ยประมาณ 44,000 ดอลลาร์ในไตรมาสที่ 3 เทียบกับประมาณ 54,000 ดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2022 ถึงจะลดราคาที่จูงใจลูกค้า แต่มัสก์แสดงความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจในวงกว้างสำหรับปีหน้า รวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และผลกระทบต่อผู้บริโภค
กระนั้น ตัวเขาก็พึงพอใจกับ Cybertruck ซึ่ง Tesla วางแผนที่จะเริ่มส่งมอบให้กับลูกค้าในปลายเดือนพฤศจิกายน ถึงอย่างนั้นมัสก์กล่าวว่าอาจต้องใช้เวลาอีก 12-18 เดือนจึงจะทำให้กระแสเงินสดเป็นบวกได้
“เราขุดหลุมศพของเราเองด้วย Cybertruck” มัสก์กล่าวถึงความซับซ้อนในการผลิต ซึ่งต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงเกินไป และการเปลี่ยนแปลงการออกแบบ ซึ่งตัว Cybertruck เป็นรถยนต์โดยสารรุ่นใหม่รุ่นแรกของ Tesla ในรอบกว่า 3 ปี โดยมีคนจองรถบรรทุกมากกว่าหนึ่งล้านคัน แต่ถึงอย่างนั้น Tesla คาดว่าจะผลิต Cybertrucks ได้ 250,000 คันต่อปีเท่านั้นในช่วงแรก
Tesla ยืนยันอีกครั้งถึงเป้าหมายในการส่งมอบรถยนต์ 1.8 ล้านคันให้แก่ลูกค้าในปีนี้ เพิ่มขึ้นจาก 1.3 ล้านคันในปี 2022 แต่ผู้บริหารของ Tesla ปฏิเสธเมื่อถูกถามเกี่ยวกับแผนการเติบโตในปีหน้า ซึ่งเคยตั้งเป้าเพิ่มยอดขายรถยนต์เฉลี่ย 50% ต่อปี
หลังจากเติบโตอย่างไม่หยุดยั้งเป็นเวลาหลายปี Tesla กำลังเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่ท้าทายมากขึ้นข้างหน้า คู่แข่งเก่าและใหม่กำลังเข้ามาในตลาด EV ในขณะที่ผู้ซื้อจำนวนมากลังเลที่จะเปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยีที่มีราคาแพงกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น แม้ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วทั้งอุตสาหกรรมในสหรัฐฯ ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่เป็นการโตที่ช้าลง
ในแดนมังกรการเติบโตของ Tesla ถูกท้าทายด้วยสงครามราคาที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นในตลาด EV และการเพิ่มขึ้นของ BYD ซึ่งเป็นคู่แข่งที่กำลังหายใจรดต้นคอ Tesla เข้ามาทุกที
อ้างอิง: