สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ‘อีลอน มัสก์’ มหาเศรษฐีและผู้ก่อตั้ง Tesla ปิดดีลซื้อกิจการทวิตเตอร์สำเร็จแล้ว ทำให้ผู้บริหารทวิตเตอร์หลายคน รวมถึง พารัก อักราวาล ตบเท้าลาออกจากบริษัท
สำนักข่าว BBC รายงานว่า พารัก อักราวาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ของทวิตเตอร์ เป็นหนึ่งในผู้บริหารที่จะลาออก โดยจะมีผลทันทีหลังจาก อีลอน มัสก์ ปิดดีลข้อตกลงมูลค่า 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐได้สำเร็จ เพื่อเข้าดูแลกิจการทวิตเตอร์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- Binance ยันลงทุนเพื่อต่อยอดธุรกิจ เดินหน้าควัก 1.5 หมื่นล้านบาท ร่วมทุนกับ ‘อีลอน’ เข้าซื้อ Twitter
- บรรดาแบงก์ที่จะปล่อยกู้ให้ อีลอน มัสก์ เข้าซื้อหุ้น Twitter อาจขาดทุนได้ถึง 500 ล้านดอลลาร์
- หุ้น Twitter พุ่ง 22% หลัง อีลอน มัสก์ กลับลำ 180 องศา ยอมเข้าซื้อราคาเดิม นักวิเคราะห์มอง ที่ยอมเพราะคาดว่าแพ้ในการฟ้องศาลแน่ๆ
นอกจากนี้รายงานยังระบุว่า วิจายา แกดเด หัวหน้าฝ่ายกฎหมาย นโยบาย และความไว้วางใจ และ เน็ด เซกัล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (CFO) ซึ่งเข้าทำงานในทวิตเตอร์ตั้งแต่ปี 2017 รวมถึง ฌอน เอ็ดเกตต์ ที่ปรึกษาทั่วไป ซึ่งทำงานในทวิตเตอร์ตั้งแต่ปี 2012 ก็เป็นผู้บริหารที่เตรียมตัวลาออกด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ พารัก อักราวาล ซึ่งเพิ่งก้าวเข้าสู่ตำแหน่ง CEO เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อน หลังจาก แจ็ค ดอร์ซีย์ หนึ่งในผู้ก่อตั้งประกาศลาออกอย่างกะทันหัน โดยอักราวาลถือเป็นผู้บริหารที่ทำงานในทวิตเตอร์มาเกือบทศวรรษแล้ว โดยเขาเคยดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี (CTO) ก่อนก้าวขึ้นดำรงตำแหน่ง CEO
‘อีลอน มัสก์’ มา ‘พารัก อักราวาล’ ต้องไป?
ก่อนหน้านี้มัสก์เคยกล่าวไว้ว่า ตนรู้สึกไม่ไว้ใจการจัดการในทวิตเตอร์ นับเป็นที่ชัดเจนว่า พารัก อักราวาล ไม่น่าจะรักษาตำแหน่งของตนไว้ได้ นอกจากนี้ยังมีข้อความที่ถูกเปิดเผยออกมา ที่แสดงให้เห็นว่าทั้งสองเคยถกเถียงกันในช่วงต้นของกระบวนการเจรจา หลังจากมัสก์เคยตั้งคำถามผู้ติดตามของเขาว่า “คิดว่าทวิตเตอร์ ‘กำลังตาย’ หรือไม่”
ด้านอักราวาลได้ตอบว่า “คุณมีอิสระที่จะทวีตว่า ‘ทวิตเตอร์กำลังตายหรือไม่’ หรืออย่างอื่นเกี่ยวกับทวิตเตอร์” เมื่อวันที่ 9 เมษายน “แต่มันเป็นความรับผิดชอบของผมที่จะบอกคุณว่าสิ่งนี้ไม่ได้ช่วยให้ผมทำให้ทวิตเตอร์ดีขึ้นได้ในบริบทปัจจุบัน” โดยมัสก์ยังตอบกลับว่า “สัปดาห์นี้คุณทำอะไรไปบ้างแล้ว”
ในสัปดาห์ต่อมา มัสก์ยังส่งข้อความหาเพื่อนหลังอักราวาลไปพักผ่อนที่ฮาวายระหว่างการเจรจาข้อตกลงซื้อทวิตเตอร์ โดยระบุว่า “ตอนนี้เขาควรอยู่ในห้องทำสงคราม (War Room) ไม่ใช่เหรอ!?”
อย่างไรก็ตาม อักราวาลไม่น่าจะจากไปมือเปล่า โดยส่วนหนึ่งของข้อตกลงระบุว่า อักราวาลจะได้รางวัลหุ้น 100% ที่บริษัทยังไม่ได้มอบให้เขา โดยบริษัทวิจัย Equilar คาดว่า รางวัลดังกล่าวจะคิดเป็นเงินประมาณ 42 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ มัสก์มีเวลาจนถึงวันนี้ (28 ตุลาคม) ตามเวลาสหรัฐฯ ในการเข้าซื้อกิจการทวิตเตอร์มูลค่า 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือต่อสู้กับทวิตเตอร์ในชั้นศาล หลังจากที่ในเดือนเมษายน ทวิตเตอร์ประกาศยอมรับข้อเสนอของมัสก์ในการซื้อกิจการ อย่างไรก็ตาม ต่อมาไม่นานนัก มัสก์ก็เกิดไม่แน่ใจในแผนการซื้อกิจการดังกล่าว โดยอ้างว่าทวิตเตอร์มีจำนวนบัญชีปลอมมากกว่าที่เปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (27 ตุลาคม) มัสก์ออกมาระบุว่า เหตุผลที่ตนซื้อทวิตเตอร์มาก็เพราะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับอนาคตของอารยธรรมที่จะต้องมีจัตุรัสกลางเมืองดิจิทัลร่วมกัน สถานที่ซึ่งความเชื่อที่หลากหลายสามารถถกเถียงกันได้อย่างมีสุขภาพดี โดยไม่ต้องใช้ความรุนแรง
โดยเมื่อกลางสัปดาห์นี้ มัสก์ยังเดินทางเยือนสำนักงานใหญ่ของทวิตเตอร์พร้อมอ่างล้างมือ พร้อมทวีตข้อความว่า “let that sink in!”
อ้างอิง:
