Tesla เปิดเผยข้อมูลในเอกสารกฎหมายรายไตรมาสว่า ได้รับหมายศาลใหม่จากสำนักงาน ก.ล.ต. ของสหรัฐฯ เกี่ยวกับ ‘กระบวนการกำกับดูแลเกี่ยวกับการปฏิบัติตามข้อตกลงของ ก.ล.ต. ของบริษัท’ ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวส่งผลให้ ‘อีลอน มัสก์’ หลุดพ้นจากตำแหน่งประธานของบริษัท Tesla
ก.ล.ต. กล่าวหาว่า แม้มัสก์จะมีการหารือกับนักลงทุนซาอุแล้ว เขาก็ยังไม่มีเงินทุนในการทำให้บริษัท Tesla เป็นบริษัทส่วนบุคคล ซึ่งจากข้อตกลงดังกล่าว มัสก์ยอมรับคำร้องและตกลงที่จะส่งทวีตที่อาจมีข้อมูลสำคัญสำหรับนักลงทุนให้ผู้บริหารคนอื่นๆ เพื่อรออนุมัติก่อนโพสต์
มัสก์ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหลังข้อตกลงดังกล่าว โดยในงานประชุม TED เมื่อช่วงต้นปี เขากล่าวว่าการยอมรับข้อตกลงนั้นเพียงเพราะว่าหากเขาสู้คดีต่อ เงินทุน Tesla จะถูกตัดในช่วงเวลาที่ต้องการเงินทุนมากที่สุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ไหน อีลอน มัสก์ อยากเห็น ‘Bitcoin’ ประสบความสำเร็จ? แต่ไตรมาสที่ผ่านมา Tesla ได้ขายออก 75% ดึงเงินสดเข้ากระเป๋า 3.4 หมื่นล้านบาท
- อีลอน มัสก์ ขอศาลชะลอการไต่สวนกรณีล้มดีลซื้อ Twitter ออกไปเป็นปีหน้า
“ผมถูกบังคับให้โกหกเพื่อช่วยให้บริษัทพ้นวิกฤต นั่นเป็นเหตุผลเดียวเลยล่ะ” เขากล่าวระหว่างงานประชุม TED
ทนายความส่วนตัวของมัสก์ยังร้องเรียนกับผู้พิพากษาที่คอยดูแลข้อตกลงดังกล่าว โดยอ้างว่า ก.ล.ต. พยายาม ‘ระงับการใช้สิทธิในการแก้ไขครั้งแรก’ เพราะมัสก์เป็นนักวิจารณ์รัฐบาลที่ ‘เปิดเผย’
และนอกเหนือจากการตรวจสอบบทบาทของมัสก์ ณ Tesla นั้น ก.ล.ต. กำลังตรวจสอบทวีตของเขากับความทะเยอทะยานในการเข้าซื้อ Twitter ของเขา
หน่วยงานส่งจดหมายถึงมัสก์เมื่อวันที่ 2 มิถุนายนของปีนี้ พร้อมตั้งคำถามเกี่ยวกับ ‘ทวีต’ ของเขาที่เชื่อมโยงถึงการเข้าซื้อแพลตฟอร์ม นั่นรวมถึงทวีตที่เขาบอกว่าได้หยุดดีลนี้ไว้ชั่วคราว
และก่อนหน้านี้ Tesla ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีการถือคริปโตของบริษัท จากการยื่นฟ้องเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา บริษัทอ้างว่า สินทรัพย์ Bitcoin ที่เหลืออยู่รวมทั้งสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ มีมูลค่าทั้งสิ้น 218 ล้านดอลลาร์ เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ซึ่งลดลงจาก 1.26 พันล้านดอลลาร์ เมื่อสิ้นปีที่แล้ว และรายงานผลประกอบการของ Tesla สัปดาห์ล่าสุดได้รายงานว่าบริษัทได้ขาย Bitcoin ไปแล้วกว่า 75%
มัสก์กล่าวว่า การขาย Bitcoin ของบริษัทมาจากการที่ Tesla จำเป็นต้องรักษาเงินสำรองของบริษัท เนื่องจากค่าใช้จ่ายจากการที่จำเป็นต้องปิดโรงงานในเซี่ยงไฮ้จากการระบาดของโควิดนั้นมีสูงมาก ทั้งนี้เขากล่าวว่า บริษัทยังไม่สูญเสียความเชื่อมั่นในสกุลเงินดิจิทัลอย่าง Bitcoin และยังไม่ได้ขายเหรียญอื่นๆ ที่ถืออยู่ เช่น Dogecoin อีกด้วย
ในอนาคตบริษัทจำเป็นที่จะต้องใช้เงินอีกมาก การฟ้องร้องนี้ได้เปิดเผยแผนการของบริษัทในอีก 2 ปีข้างหน้า โดยจะใช้เงินระหว่าง 6-8 พันดอลลาร์ กับค่าใช้จ่ายด้านทุน เช่น อุปกรณ์และการก่อสร้างโรงงานหรือจรวดทั้งหลาย ซึ่งเพิ่มขึ้น 1 พันล้านดอลลาร์ จากแผนการก่อนหน้านี้
ภาพ: Drew Angerer / Getty Images
อ้างอิง: