อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก และนักธุรกิจผู้ก่อตั้งบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำด้านยานยนต์ไฟฟ้าอย่าง Tesla และด้านการบินอวกาศอย่าง SpaceX แสดงความเห็นระหว่างการให้สัมภาษณ์กับทาง Insider ว่า ในที่สุดแล้วมนุษย์จะค้นพบหนทางที่ทำให้ตนเองเป็นอมตะ ด้วยการดาวน์โหลดสมองของตนเองลงไปในหุ่นยนต์
ทั้งนี้ มัสก์ในวัย 50 ปีกล่าวว่า การดาวน์โหลดสมองเพื่อรักษาอัตลักษณ์ความเป็นตัวตนของตนเองแม้ว่าจะไม่มีร่างกายหลงเหลืออยู่แล้วเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ ซึ่งแน่นอนว่าการที่ไม่มีร่างกายย่อมแตกต่างกับการมีร่างกาย ทว่าตราบใดที่ยังสามารถรักษาความทรงจำ รักษาบุคลิกของคนคนหนึ่งไว้ ก็ย่อมหมายถึงการที่คนคนนั้นยังคงอยู่ ไม่ได้จากไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ‘อีลอน มัสก์’ เตรียมสร้าง ‘Tesla Bot’ หุ่นยนต์ต้นแบบฮิวแมนนอยด์ หวังช่วยมนุษย์ทำงานซ้ำซาก จำเจ คาดต้นแบบเสร็จปีหน้า
- “ผมไม่คิดว่าเราควรให้ผู้คนมีชีวิตอยู่ยาวนาน!” ‘อีลอน มัสก์’ แทงสวนเหล่ามหาเศรษฐีที่ลงทุนเพื่อค้นหาเทคโนโลยีที่ทำให้มนุษย์มีชีวิตนานขึ้น
- Optimus หุ่นยนต์ AI รูปทรงมนุษย์จาก Tesla อาจได้เห็นไม่ไกลเกินเอื้อม?
นักธุรกิจมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก กล่าวว่า เทคโนโลยีอย่างการบันทึกหน่วยความจำของคอมพิวเตอร์ แล็ปท็อป หรือโทรศัพท์มือถือ จะค่อยๆ วิวัฒนาการให้มีความก้าวหน้า ซึ่งขณะนี้เทคโนโลยีของหน่วยความจำเหล่านี้ช่วยขยายศักยภาพของมนุษย์ให้สามารถกระทำในสิ่งที่เคยคิดว่าเป็นเพียงเวทมนตร์
แม้จะฟังดูเหมือนนิยายวิทยาศาสตร์ที่มีการเอ่ยถึงแนวคิดการอัปโหลดสมองมนุษย์มานาน แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยาส่วนหนึ่งเชื่อว่า มีความเป็นได้ในอนาคตที่จะสามารถอัปโหลดสมองมนุษย์เป็นแบ็กอัพสำรองไว้ใช้งาน โดยน่าจะจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยี 2 ส่วน คือ สมองประดิษฐ์ (Artificial Brain) และเครื่องสแกนสมอง เพื่อให้สมองประดิษฐ์สามารถจำลองระบบประสาทของคนคนหนึ่งให้เหมือนมากที่สุด ซึ่งการสแกนสมองนี้ถือเป็นขั้นตอนที่มีรายละเอียดและความยุ่งยากมากที่สุด เนื่องจากระบบประสาทของมนุษย์มีความซับซ้อน และเทคโนโลยีในปัจจุบันยังไม่สามารถทำได้
รายงานระบุว่า ความสนใจในด้านดังกล่าวของมัสก์ยืนยันได้จากการที่เจ้าตัวเข้าไปลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพอย่าง Neuralink ที่มุ่งพัฒนาระบบที่จะสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างสมองกับจักรกล เปิดทางให้มนุษย์จัดเก็บความทรงจำของตนเองได้
แม้จะให้ความสนใจเกี่ยวกับการยืดอายุขัยของคนให้ยาวนานขึ้น แต่มัสก์ยืนกรานชัดเจนว่าตนเองไม่ได้ต้องการความเป็นอมตะ และเชื่อว่าการตายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่ควรดำรงอยู่ เพราะการตายย่อมหมายถึงการเกิดสิ่งใหม่ๆ ที่จะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
กลับมาที่ธุรกิจของมัสก์อย่าง Tesla ที่กำลังประสบปัญหาด้านต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะแร่สำคัญที่ใช้ในการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างมาก จนมัสก์อดใจออกมาทวีตข้อความบ่นไม่ได้ว่า ราคาลิเธียมในตลาดปัจจุบัน “แพงเป็นบ้า” และหากราคายังไม่ได้การแก้ไข Tesla ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเข้าไปลงทุนขุดแร่ลิเธียมและสกัดออกมาใช้งานด้วยตนเอง
ทั้งนี้ มัสก์กล่าวว่าโลกไม่ได้ขาดแคลนแร่ลิเธียม แต่วิธีการขุดและสกัดช้าเกินไป ไม่ตอบสนองต่อความต้องการ จึงทำให้เกิดปัญหาแร่ลิเธียมไม่เพียงพออยู่ในเวลานี้ โดยปีที่ผ่านมาข้อมูลจาก Benchmark Mineral Intelligence พบว่า ราคาของแร่ลิเธียมปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 480%
ขณะเดียวกันในส่วนของความคืบหน้ากรณีซื้อหุ้นของทวิตเตอร์ มีรายงานว่า มัสก์ได้ออกมาเสนอให้เปลี่ยนแปลงนโยบายการบริการบนทวิตเตอร์ บลู หลังเพิ่งเปิดตัวเรื่องการถือหุ้นทวิตเตอร์ 9.2 เปอร์เซ็นต์เพียงไม่กี่วัน รวมถึงการลดราคาค่าบริการและการอนุญาตให้ผู้ใช้งานชำระค่าบริการด้วยเหรียญ Dogecoin และสกุลเงินท้องถิ่น
โดยบริการทวิตเตอร์ บลู ซึ่งมีสนนราคาค่าบริการต่อเดือนที่ 2.99 ดอลลาร์ ถือเป็นบริการพรีเมียมที่ทำให้เหล่าผู้ใช้งานสามารถแก้ไขข้อความได้ 30 วินาที สามารถจัดเก็บและจัดหมวดหมู่ข้อความได้ ตลอดจนรวบรวมข้อความต่อกันจนเป็นข้อความยาวๆ พร้อมจัดรูปแบบข้อความให้อ่านง่ายขึ้น
ปัจจุบันมัสก์ได้กลายมาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของทวิตเตอร์ ซึ่งหลังยื่นเรื่องซื้อหุ้นเพียงไม่กี่วัน มัสก์ก็ได้เสนอให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบริการบนทวิตเตอร์ บลู ที่เปิดตัวในเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว โดยปัจจุบันทวิตเตอร์ บลูให้บริการในสหรัฐฯ แคนาดา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์
อ้างอิง:
- https://www.cnbc.com/2022/04/08/elon-musk-humans-could-eventually-download-their-brains-into-robots.html
- https://www.cnbc.com/2022/04/08/elon-musk-telsa-may-have-get-into-mining-refining-lithium-directly.html
- https://www.channelnewsasia.com/business/musk-proposes-twitter-blue-subscription-shake-days-after-disclosing-92-twitter-stake-2618411