ถ้ามีคนท้าให้คุณลบแอ็กเคานต์เฟซบุ๊กของคุณที่มีคนตามมากกว่า 2 ล้านคน คุณจะกล้าลบไหม?
หลายคนคงส่ายหน้า แต่ไม่ใช่กับ อีลอน มัสก์ ซีอีโอ SpaceX และ Tesla ที่ต้องยกให้เป็น #คนจริง2018 เมื่อเขาตัดสินใจร่วมแคมเปญ #DeleteFacebook หลังมีคนท้าให้เขาลบแฟนเพจของบริษัทเขาทิ้ง
เหตุการณ์นี้เริ่มขึ้นเมื่อ ไบรอัน แอคตัน (Brian Acton) ผู้ร่วมก่อตั้งแอปฯ WhatsApp ริเริ่มให้ผู้ใช้เลิกเล่นเฟซบุ๊ก (แม้ว่าเขาจะรวยจากการขาย WhatsApp ให้เฟซบุ๊กในปี 2014 ด้วยตัวเลขกว่า 19 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ) เขาทวีตข้อความว่า “ถึงเวลาแล้ว #deletefacebook”
อีลอน มัสก์ เป็นบุคคลดังที่ตอบรับกระแสดังกล่าวด้วยการทวีตข้อความว่า “เฟซบุ๊กคืออะไรเหรอ?” ส่งผลให้มีผู้ใช้งานรายหนึ่งนามว่า serdarsprofile ออกมาท้าด้วยความยียวนว่า “แน่จริง ลบเพจ SpaceX ดิ ถ้ายูแมนจริง”
อีลอน มัสก์ คนจริงของเราตอบโต้กลับทันทีแบบแมนๆ ว่า “ผมไม่ยักรู้ว่ามีเพจนั้นอยู่ด้วย เดี๋ยวรีบจัดการให้” ทันใดนั้นเองเพจ SpaceX และ Tesla ที่มีคนตามกว่า 2.6 ล้านคน และ 2.4 ล้านคนตามลำดับก็อันตรธานหายวับไปกับตา! สร้างความตื่นอกตกใจให้กับสำนักข่าวต่างประเทศตีข่าวกันไปทั่ว
เหตุผลที่ อีลอน มัสก์ กล้าลบเพจของตัวเองอาจเป็นเพราะตัวเขาเองอ้างว่า ไม่ใช้เฟซบุ๊กและไม่เคยคิดจะใช้ด้วย โดยหลังจากที่เกิดกระแสดังกล่าวก็มีคนมาท้าเขาต่อว่า “ลบอินสตาแกรมด้วยสิ” (เพราะอินสตาแกรมก็เป็นของเฟซบุ๊ก) แต่ อีลอน มัสก์ โต้กลับไปว่า
“อินสตาแกรมถือว่าโอเคอยู่นะ มันค่อนข้างจะอิสระและแฟร์กับผู้ใช้ ผมไม่ใช้เฟซบุ๊กและไม่เคยมี การลบเพจจึงไม่ใช่เรื่องใหญ่ของเรา แถมเราก็ไม่เคยลงโฆษณาหรือจ่ายเงินอยู่แล้ว ดังนั้น…ไม่เห็นต้องแคร์”
ถ้าใครตามข่าวเทคโนโลยีน่าจะพอทราบว่า อีลอน มัสก์ และ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก นั้นไม่ค่อยจะกินเส้นกัน และมีกรณีพิพาทกันบ่อยครั้ง ไล่ตั้งแต่ปี 2016 ที่จรวด SpaceX ของมัสก์ระเบิด ทำให้ดาวเทียมส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ต AMOS-6 ของเฟซบุ๊กพังตามไปด้วย หรือการถกเถียงกันเรื่องปัญญาประดิษฐ์ที่ซักเคอร์เบิร์กต่อว่ามัสก์ที่เป็นคนพูดว่า “ปัญญาประดิษฐ์เป็นภัย” ไร้ความรับผิดชอบ ซึ่ง อีลอน มัสก์ สวนกลับทันที่ว่า มาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก “มีความรู้จำกัด”
ปัจจุบันเฟซบุ๊กกำลังเผชิญวิกฤตอย่างหนัก หลังถูกกล่าวหาว่าเปิดช่องให้บริษัทวิจัยข้อมูลเพื่อการเลือกตั้ง Cambridge Analytica เข้ามาล้วงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานมากกว่า 50 ล้านรายชื่อ จนทำให้หุ้นบริษัทตกทันทีกว่า 7% หรือมูลค่าบริษัทหายไปกว่า 36,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (1.12 ล้านล้านบาท) และ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ถูกคณะกรรมาธิการสอบข้อเท็จจริงของสภาสามัญชนสหราชอาณาจักร และรัฐสภายุโรป (European Parliament) เรียกตัวเพื่อทำการสอบสวนและชี้แจงข้อเท็จจริงเพิ่มเติม จนเกิดกระแสเลิกเล่นเฟซบุ๊ก #DeleteFacebook
การที่ อีลอน มัสก์ กระโดดเข้ามาร่วมแคมเปญ #DeleteFacebook จึงเป็นการตอกย้ำความไม่กินเส้นกันของสองอัจฉริยะแห่งวงการเทคโนโลยี
อย่างไรก็ดี โฆษกของบริษัทเทสลายังไม่ได้มีการออกมาให้ความเห็นเรื่องนี้แต่อย่างใด ซึ่งต้องติดตามกันต่อไปว่า การลบเพจเฟซบุ๊กที่มีคนตามรวมกันถึง 5 ล้านคน จะมีผลกระทบต่อตัวบริษัทหรือไม่
ที่แน่ๆ เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เกรียนกับใครก็ได้ แต่อย่าเกรียนกับ #คนจริง2018 อย่าง อีลอน มัสก์!
อ้างอิง:
