เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (28 พฤศจิกายน) อีลอน มัสก์ เคลมว่า Apple ขู่จะถอด Twitter ออกจาก App Store ซึ่งเป็นหนึ่งในกระบวนการตรวจสอบแอปพลิเคชัน โดยทวีตของมัสก์เขียนว่า “Apple ขู่ว่าจะระงับแอป Twitter บน App Store แต่ไม่บอกเราว่าทำไม”
ในทวีตอื่นๆ มัสก์บอกว่าค่าธรรมเนียม 30% ของ App Store นั้นเป็น ‘ภาษีลับๆ 30%’ และสร้างโพลถามว่า “Apple ควรเผยแพร่การเซ็นเซอร์ทั้งหมดที่ส่งผลกระทบต่อลูกค้าหรือไม่” นอกจากนี้เขายังอ้างว่า Apple ได้หยุดโฆษณาหลายตัวบน Twitter
ทั้งนี้ App Store เป็นช่องทางเดียวที่จะพาแอปของคุณไปโผล่บน iPhone ได้ นั่นหมายความว่าหาก Twitter ถูกถอดออก แพลตฟอร์มโซเชียลจะสูญเสียหนึ่งในช่องทางรายได้หลักออกไป แม้จะใช้บนเว็บไซต์ได้ก็ตาม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ดาวอังคารก็กำลังจะไป สร้าง ‘สมาร์ทโฟน’ สักเครื่องคงไม่ยาก! ‘อีลอน มัสก์’ ยอมรับหาก Apple และ Google ลบแอป Twitter อาจจะปั้นมือถือขึ้นมาเอง
- อีลอน มัสก์ ไล่พนักงาน Twitter ออกหลายสิบคน และให้ชดเชยแค่ 1 เดือน เพียงไม่กี่วันหลังบอกในที่ประชุมว่า ‘ฤดูแห่งการไล่ออกจบลงแล้ว’
- 50 จาก 100 แบรนด์ที่ใช้เงินโฆษณามากที่สุดใน Twitter ได้ ‘หยุดใช้เงิน’ หลัง อีลอน มัสก์ เข้าเป็นเจ้าของคนใหม่
Apple กำหนดให้ผู้ผลิตแอปจ่ายเงินราว 15-30% ของสินค้าและบริการที่จำหน่ายผ่านแอปของตน ส่งผลให้เกิดข้อถกเถียงกับทั้งแอปฟังเพลงชื่อดังอย่าง Spotify และผู้จัดจำหน่ายเกมยักษ์ใหญ่อย่าง Epic Games แต่กับมัสก์มันต่างออกไป เขาเป็นศูนย์กลางความสนใจ มันจะไม่ใช่การถกเถียงเล็กๆ มันอาจกลายเป็นความท้าทายครั้งใหญ่สุดของ Apple ในการควบคุมแอปพลิเคชันบน iPhone
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ตัวแทนของทั้ง Google Play Store และ App Store ได้ติดต่อ Twitter หลังมัสก์เข้าคุมบังเหียน และเกิด Hate Speech มากมายบนเว็บไซต์ จากรายงาน Op-Eds ของ The New York Times ซึ่งเขียนโดย โยเอล รอธ อดีตหัวหน้าฝ่าย Trust & Safety ของ Twitter
ทั้งนี้ ฟิล ชิลเลอร์ อดีตหัวหน้าฝ่ายการตลาดของ Apple ที่ดูแลการพิจารณาแอป ได้ลบบัญชี Twitter ของเขาเมื่อต้นเดือนนี้หลังมัสก์เข้าครอบครอง Twitter
ซึ่ง ฟิลลิป ชูเมกเกอร์ อดีตหัวหน้าฝ่ายตรวจสอบแอปของ Apple และ CEO คนปัจจุบันของ Identity.com กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวล่าสุดของ Apple “เปรียบได้กับการถอดทหารของตนออกจากประเทศก่อนจะโจมตี” และ “พวกเขาคิดว่าจะต้องถอดแอปพวกนี้ออกจากหน้าร้าน”
อ้างอิง: