เกิดเหตุทางรถไฟยกระดับพังถล่มในกรุงเม็กซิโกซิตีของประเทศเม็กซิโกในช่วงเวลาประมาณ 22.25 น. ของวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับช่วงสายวันนี้ตามเวลาในไทย ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 23 คน และบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 70 คน ซึ่งในจำนวนผู้เสียชีวิตนี้มีเด็กรวมอยู่ด้วย
โดยสำนักเลขาธิการด้านการจัดการความเสี่ยงและการคุ้มครองพลเมืองของเม็กซิโกระบุว่า ขณะเกิดเหตุมีรถไฟแล่นอยู่บนทางรถไฟยกระดับ ซึ่งเป็นส่วนของเส้นทางขนส่งด่วนหมายเลข 12 หรือที่รู้จักกันในนาม ‘Golden Line’ หรือสายสีทอง ก่อนจะปรากฏภาพทางรถไฟดังกล่าวถล่มลงมาสู่พื้นผิวการจราจรเบื้องล่าง ทั้งนี้ มีภาพบันทึกเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิดที่แสดงให้เห็นวินาทีที่ทางรถไฟดังกล่าวถล่ม ซึ่งตามมาด้วยฝุ่นและเศษซากต่างๆ คละคลุ้ง นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าตู้โดยสารรถไฟหลายตู้ร่วงลงสู่พื้น ทำให้รถอย่างน้อยหนึ่งคันที่วิ่งอยู่บนถนนได้รับความเสียหาย
หลังเกิดเหตุ คลอว์เดีย ไชน์บาม นายกเทศมนตรีกรุงเม็กซิโกซิตี ทวีตข้อความจากที่เกิดเหตุ มีใจความสำคัญส่วนหนึ่งระบุว่า “นักดับเพลิงและเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยสาธารณะกำลังทำงานอยู่ โรงพยาบาลต่างๆ กำลังให้บริการ เราจะให้ข้อมูลเพิ่มเติมในไม่ช้า”
มาเรียนา ผู้รอดชีวิตวัย 26 ปีจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ระบุกับหนังสือพิมพ์ El Universal ของเม็กซิโกว่า มีคนจำนวนมากยืนและนั่งอยู่ในตู้โดยสาร “เราได้ยินเพียงเสียงดังสนั่นและทุกอย่างก็พังทลาย” เธอกล่าว พร้อมกับระบุเพิ่มเติมว่าตัวเธอเองก็กระแทกหลังคาของตู้โดยสารรถไฟเช่นกัน แต่เนื่องจากเธอไม่ได้บาดเจ็บถึงขั้นสาหัส จึงช่วยผู้อื่นให้ออกมาทางหน้าต่าง ส่วนพยานที่อยู่ในเหตุการณ์อีกรายบอกกับเครือข่ายสถานีโทรทัศน์ Televisa ในเม็กซิโกว่า เธอเห็นโครงสร้างเกิดการสั่นไหว และเมื่อฝุ่นจางไปแล้วผู้เห็นเหตุการณ์รายนี้จึงพยายามวิ่งเข้าไปดูว่าพอจะช่วยเหลืออะไรได้บ้าง แต่ไม่มีเสียงกรีดร้องแต่อย่างใด “ฉันไม่รู้ว่าพวกเขากำลังช็อกหรือเปล่า” พยานรายนี้ระบุ
ระบบรถไฟในเมืองของกรุงเม็กซิโกซิตีเป็นหนึ่งในระบบขนส่งด่วนที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีผู้โดยสารประมาณ 1.6 พันล้านคนต่อปี และเมื่อปีที่แล้วก็มีผู้เสียชีวิต 1 คน และบาดเจ็บมากกว่า 40 คน จากเหตุชนกันระหว่างรถไฟ 2 ขบวน ส่วนในปี 1975 ก็มีการชนกันของขบวนรถไฟใต้ดินซึ่งมีผู้เสียชีวิต 31 ราย
ภาพ: Hector Vivas / Getty Images
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
อ้างอิง:
