26 มิถุนายน วันที่ 4 ของการค้นหานักฟุตบอลเยาวชนและโค้ชของทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย รวม 13 คน ที่หายตัวไประหว่างท่องเที่ยวบริเวณถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ในวนอุทยานขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย
THE STANDARD ลงพื้นที่ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอนเพื่อติดตามความคืบหน้า พบว่าในพื้นที่มีฝนตกลงมาต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อคืน ทำให้สภาพถนนบริเวณทางเข้ากลายเป็นดินโคลนซึ่งเพิ่มความยากลำบากในการทำงาน
โดยเช้าวันนี้ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะเดินทางถึงจังหวัดเชียงราย เพื่อติดตามการค้นหา 13 ชีวิตในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน
โดย พล.อ. อนุพงษ์ ได้พบกับครอบครัวของผู้ที่สูญหายเพื่อให้กำลังใจและพูดคุยถึงแนวทางการให้ความช่วยเหลือ และยืนยันเจ้าหน้าที่จะนำน้องๆ ออกมาให้ได้ จากนั้นได้เดินทางมายังอาคารที่ทำการวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน เพื่อประชุมร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ทั้งทหาร เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ป่าไม้ และหน่วยซีล เพื่อรับฟังความคืบหน้าการติดตามผู้สูญหายและสถานการณ์ล่าสุด
ทั้งนี้ พล.อ. อนุพงษ์ ให้สัมภาษณ์ว่า เนื่องจากน้ำสูงขึ้นจนถึงเพดานถ้ำและไม่ใช่น้ำธรรมดา แต่เป็นน้ำโคลน และน้ำยังไหลมาเติมตลอด การที่จะให้ดำลงไปในน้ำที่มองไม่เห็นในระยะทางหลายร้อยเมตรไม่สามารถทำได้
ดังนั้นสิ่งที่ทางหน่วยซีลต้องการคือ ต้องสูบน้ำออกให้น้ำลดระดับลงให้ได้ โดยขอให้มีช่องว่างระหว่างเพดานให้พอหายใจได้เท่านั้น ขณะที่หน่วยซีลก็จะเปลี่ยนเครื่องมือใช้ถังดำน้ำหมุนเวียนแบบที่ไม่มีฟองอากาศออกมา
“ขณะนี้ต้องเร่งเดินสายไฟและติดตั้งปั๊มน้ำให้ได้ จะต้องปั๊มอย่างไรก็ต้องทำ ช่วงนี้ยังโชคดีเพราะฝนยังไม่เต็มมาก ท่านแม่ทัพก็ยืนยันว่าจะเร่งเดินสายไฟให้เสร็จภายในวันนี้ ผมคิดว่าถ้าเราเดินสายไฟและปั๊มน้ำได้ เราน่าจะตอบสนองในสิ่งที่หน่วยซีลต้องการได้”
พล.อ. อนุพงษ์ กล่าวว่า วันนี้ตั้งเป้าหมายไว้ว่าต้องถึงตัวเด็ก โดยชุดซีลพยายามเต็มที่ หมุนเวียนกันทำงานตลอดเวลา ขณะนี้ถือว่ายังมีสัญญาณบวก แต่เราจะไม่รอคอย ต้องตั้งเป้าให้ถึง มันจะเป็นอย่างไรก็ต้องถึงตัวเด็กให้ได้
THE STANDARD ได้พูดคุยกับ ชูชาติ เสนาธรรม ผู้จัดการไฟฟ้าสาขาอำเภอแม่สาย ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาได้ลากสายไฟเข้าไปในถ้ำแล้ว 1 กิโลเมตร ขณะที่ช่วงเที่ยงวันนี้พยายามลากสายไฟเข้าไปเพิ่มเติมได้อีก 500 เมตร จากระยะทางทั้งหมด 3 กิโลเมตร แต่อุปสรรคของการลากสายไฟคือความมืดและน้ำ แต่ตั้งเป้าว่าจะลากสายไฟระยะทาง 3 กิโลเมตรให้ได้ภายในวันนี้ เพื่อนำไปต่อกับเครื่องสูบน้ำไฟฟ้าที่เตรียมไว้ 3 เครื่อง
THE STANDARD ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลพบว่า ชุดค้นหาหน่วยซีลสามารถเข้าปากถ้ำไปได้ระยะทาง 3 กิโลเมตร จากนั้นไม่สามารถไปต่อได้เนื่องจากมีโคลนท่วมสูงมิดเพดานถ้ำ จึงจำเป็นต้องสูบน้ำออกก่อน
เมื่อระบายน้ำออกได้ตามแผน หน่วยซีลจะเดินลึกเข้าไปยังพื้นที่เป้าหมายซึ่งเป็นอีกโถงหนึ่งภายในถ้ำที่เรียกว่า ‘หาดพัทยา’ หรือ ‘พัทยาบีช’ เพราะคาดว่าเด็กและโค้ชจะเข้าไปหลบในจุดนั้น