ทั่วโลกป่วนรับมือกับนโยบายขึ้นภาษี (Reciprocal Tariff) ในขณะเดียวกันยังเห็นโอกาสของบริษัทพลังงานไทยอย่าง EGCO Group เดินหน้าเพิ่มกำลังผลิตพลังงานหมุนเวียนในสหรัฐอเมริกาต่อเนื่อง เข้าถือหุ้น 49% ใน “กลุ่มโรงไฟฟ้า Pinnacle ll” 2 แห่ง ที่รัฐเมนและโอไฮโอ
ขณะที่กระทรวงพลังงาน ระบุว่า ขณะนี้มีบริษัทพลังงานไทยเข้าไปลงทุนในสหรัฐฯในหลากหลายธุรกิจ อาทิ ปิโตรเคมี แบตเตอรี่ และเชื้อเพลิงชีวภาพ กว่า 2.7 พันล้านดอลลาร์ โดยล่าสุด ปตท. ซื้อก๊าซ LNG ระยะยาว
ดร.จิราพร ศิริคำ กรรมการผู้จัดการใหญ่ EGCO Group เปิดเผยว่า บริษัท EGCO Pinnacle II, LLC ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ EGCO ถือหุ้นในสัดส่วน 100% ในสหรัฐอเมริกา ได้ลงนามสัญญาการลงทุนของผู้ถือหุ้น (Equity Capital Contribution Agreement) กับบริษัท Apex Pinnacle II Member, LLC ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัท Apex Clean Energy Holdings, LLC เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2568 เพื่อเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 49% ในกลุ่มโรงไฟฟ้า Pinnacle ll กำลังผลิตรวม 251 เมกะวัตต์
ประกอบด้วยบริษัท Downeast Wind, LLC เจ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานลม Downeast กำลังผลิต 126 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในรัฐเมน และบริษัท Wheatsborough Solar, LLC เจ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Wheatsborough กำลังผลิต 125 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในรัฐโอไฮโอ
โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม Downeast และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Wheatsborough มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวกับกลุ่มผู้รับซื้อไฟฟ้าที่มีความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับที่น่าลงทุน และช่วยเพิ่มให้สหรัฐมีกำลังผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนตามเป้าในปี 2573
ทั้งนี้ ปัจจุบันโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนทั้ง 2 แห่ง อยู่ระหว่างการก่อสร้างในขั้นตอนสุดท้าย โดยหุ้นในสัดส่วน 49% ของโรงไฟฟ้าแต่ละแห่งจะถูกโอนให้แก่ EGGO Group เมื่อโครงการเริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์
การลงทุนในกลุ่มโรงไฟฟ้า Pinnacle II จะสร้างการเติบโตเพิ่มขึ้นให้แก่ EGCO Group พร้อมทั้งสนับสนุนการต่อยอดและขยายการลงทุนในตลาดพลังงานของสหรัฐอเมริกา สามารถเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเป็น 30% ของกำลังผลิตไฟฟ้าทั้งหมด ภายในปี 2573 ด้วย
“แม้ว่าขณะนี้ประเทศไทยจะได้รับผลกระทบในเรื่องการส่งออกไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาค่อนข้างมากจากนโยบายขึ้นภาษี (Reciprocal Tariff) อย่างไรก็ตาม EGCO Group ก็ยังมีพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Partners) ในสหรัฐอเมริกา ที่พร้อมจะร่วมลงทุนในโครงการต่าง ๆ ในสหรัฐอเมริกาเพิ่มเติมอีก ซึ่งถือว่า EGCO Group ยังมีโอกาสในการเติบโตในตลาดพลังงานของสหรัฐอเมริกา” ดร.จิราพร ย้ำ
บริษัทพลังงานไทยลงทุนสหรัฐฯ กว่า 2.7 พันล้านดอลลาร์ ชี้ ปตท. ซื้อ LNG ระยะยาว
นอกจากนี้ สมภพ พัฒนอริยางกูล รองปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างไทยและสหรัฐ ว่า มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและมีการค้าการลงทุนระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง
โดยในปีที่ผ่านมาประเทศไทยมีการนำเข้าน้ำมันปิโตรเลียม น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ และก๊าซธรรมชาติเหลวจากสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะน้ำมันดิบที่มีปริมาณการนำเข้าสูงถึงกว่า 33 ล้านบาร์เรล คิดเป็นมูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์
ที่ผ่านมาในช่วงปี 2565-2567 กลุ่มบริษัทปตท. จำกัด (มหาชน) ได้ซื้อก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากสหรัฐอเมริกาแล้วประมาณ 60 คาร์โก้ ปริมาณรวม 1.7 ล้านตัน เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ
ล่าสุด ปตท. ยังได้ลงนามในสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ระยะยาว 15 ปี กับสหรัฐฯ ปริมาณ 1 ล้านตันต่อปี มูลค่ารวม 7.5 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างความมั่นคงและเสถียรภาพด้านราคาในระยะยาว
สมภพกล่าวเสริมว่า กลุ่ม ปตท. มีการลงทุนด้านพลังงานในสหรัฐอเมริการวมมูลค่ากว่า 1.2 พันล้านดอลลาร์ ในหลากหลายธุรกิจ อาทิ ปิโตรเคมี แบตเตอรี่ และเชื้อเพลิงชีวภาพ และปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อขยายการลงทุนเพิ่มเติมในโครงการที่มีศักยภาพ
ขณะเดียวกันภาคเอกชนไทยมีการลงทุนในสหรัฐอเมริกาในด้านพลังงานเป็นมูลค่ารวมกว่า 2.7 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งครอบคลุมทั้งธุรกิจโรงไฟฟ้า เทคโนโลยีกักเก็บคาร์บอน และเชื้อเพลิงชีวภาพ
ภาพ: Cat_mint / Getty images