EGCO กางแผน 3 ปี (ปี 2568-2570) ทุ่มงบลงทุนปีละ 3 หมื่นล้านบาท รุกดีลซื้อกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน-ก๊าซ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ 8 ประเทศ หวังเพิ่มสัดส่วน 30% ในปี 2573 เน้นลงทุนในธุรกิจไฟฟ้า มุ่งสู่องค์กรคาร์บอนต่ำ
จิราพร ศิริคำ กรรมการผู้จัดการใหญ่ EGCO Group เปิดเผยว่า ในยุคของการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน EGCO Group ได้ทบทวนและปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจระยะ 3 ปี (ปี 2568-2570) โดยมีเป้าหมายสร้างความแข็งแกร่ง 3 ด้าน ได้แก่ การเพิ่มความสามารถในการสร้างรายได้และผลกำไรอย่างยั่งยืน การบรรลุเป้าหมายองค์กรคาร์บอนต่ำ และการปรับเปลี่ยนองค์กรเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต ภายใต้กลยุทธ์ ‘Triple P’ 3 ด้าน ได้แก่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
Profitability and Performance Energizing เพิ่มความสามารถในการสร้างรายได้และผลกำไร
Power and Energy-Related Focus เน้นลงทุนในธุรกิจไฟฟ้า ซึ่งเป็นธุรกิจหลักและรากฐานความแข็งแกร่งของ EGCO Group ทั้งโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ ซึ่งมีความสำคัญต่อความมั่นคงของระบบไฟฟ้าในยุคเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน และโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ผ่านการลงทุนทั้งรูปแบบ M&A และ Greenfield โดยต่อยอดการลงทุนในประเทศที่มีฐานธุรกิจอยู่แล้ว 8 ประเทศ
รวมทั้ง Portfolio and People Management บริหารจัดการพอร์ตการลงทุนเพื่อรองรับโอกาสการเติบโตทางธุรกิจในอนาคต
ทั้งนี้ EGCO Group เชื่อมั่นว่ากลยุทธ์ ‘Triple P’ จะตอบโจทย์เป้าหมายเป็นองค์กรคาร์บอนต่ำทั้ง 3 ระยะ ได้แก่ เป้าหมายระยะสั้น ภายในปี 2573 เพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเป็น 30% ของกำลังผลิตทั้งหมด เป้าหมายระยะกลาง ภายในปี 2583 มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และเป้าหมายระยะยาว ภายในปี 2593 จะบรรลุการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Carbon)
สำหรับการดำเนินงานในปี 2568 EGCO Group เดินหน้าลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าและธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง โดยยังคงวางงบลงทุน 3 หมื่นล้านบาท
บุกต่างประเทศ ลุ้นปีหน้า M&A สหรัฐฯ อีก 2 โครงการ
พร้อมทั้งลงทุนทั้งในและต่างประเทศ โดยจะรับรู้รายได้เต็มปีจากการเข้าซื้อหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า Compass ในสหรัฐฯ และจากการเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ของโรงไฟฟ้า EGCO Cogeneration (ส่วนขยาย) จังหวัดระยอง และโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่ง Yunlin ในไต้หวัน
รวมถึงการรับรู้รายได้จากการขายโครงการพลังงานหมุนเวียนและการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบของ APEX ในสหรัฐฯ การเจรจาสัญญาซื้อขายไฟฟ้าใหม่ของโรงไฟฟ้า Quezon ในฟิลิปปินส์ ในขณะเดียวกันก็มีโอกาสปิดดีลโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ในรูปแบบ M&A ทั้งโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงหลักและพลังงานหมุนเวียน ซึ่งจะสามารถรับรู้รายได้ทันที
“บริษัทกำลังเจรจาโครงการ M&A คาดว่าภายในไตรมาส 1 ปี 2568 จะรู้ผลอีก 1 โครงการในประเทศ กำลังการผลิตประมาณ 500 เมกะวัตต์ และอีก 1 โครงการต่างประเทศ และมีอยู่ระหว่างเจรจาในสหรัฐฯ อีก 1-2 โครงการ”
จิราพรกล่าวอีกว่า ภาพรวมผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 ของปี 2567 มีกำไรจากการดำเนินงาน 3,604 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 2,463 ล้านบาท จากโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ในต่างประเทศ โดย 9 เดือนแรกมีกำไรจากการดำเนินงาน 7,014 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 5,518 ล้านบาท จากโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ในต่างประเทศและกลุ่มโรงไฟฟ้าในสหรัฐฯ
นอกจากนี้ EGCO Group ยังสามารถผลักดันโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างให้มีความก้าวหน้าตามเป้าหมาย โดยเฉพาะ Yunlin ที่ติดตั้งเสากังหัน (Monopiles) และกังหันลม (Wind Turbine Generators: WTGs) ครบ 80 ต้นเรียบร้อยแล้ว และได้จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบแล้วทั้งสิ้น 68 ต้น คิดเป็นกำลังผลิต 544 เมกะวัตต์ ส่งผลให้บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบครบ 640 เมกะวัตต์ ภายในสิ้นปีนี้