มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 23 ราย จากเหตุดินถล่มที่เกิดจากฝนตกหนักในกรุงกีโต เมืองหลวงของเอกวาดอร์ เมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา
ซานติอาโก กวาร์เดราส นายกเทศมนตรีกรุงกีโต กล่าวกับผู้สื่อข่าว (เมื่อวานนี้ 1 กุมภาพันธ์) ว่า มีผู้บาดเจ็บจากภัยพิบัติครั้งนี้รวม 47 ราย โดยในจำนวนนี้มี 2 รายที่ยังอยู่ในขั้นวิกฤต ส่วน 7 รายออกจากโรงพยาบาลแล้ว ขณะที่เจ้าหน้าที่เตือนว่า อาจพบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น ในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังเก็บกวาดเศษซากที่กองทับถมเพื่อค้นหาผู้ที่อาจติดอยู่ข้างใต้
อัลบา โคตาคาชิ ชาวบ้านที่อพยพลูกสาวสองคนออกมาเผยว่า เธอเห็นแม่น้ำสีดำขนาดมหึมาที่ซัดพาทุกสิ่งหายไป ทำให้เธอต้องปีนกำแพงหนี
“เรายังคงออกตามหาผู้สูญหายอยู่เรื่อยๆ” โคตาคาชิกล่าว
นายกเทศมนตรียังระบุอีกว่า พายุหนักที่ทำให้เกิดดินถล่มในกรุงกีโตนั้น มีปริมาณน้ำฝนเท่ากับ 75 ลิตรต่อตารางเมตร ซึ่งเป็นปริมาณที่มากที่สุดในกรุงกีโตในรอบเกือบ 2 ทศวรรษที่ผ่านมา โดยปริมาณน้ำฝนที่ใกล้เคียงกันได้รับการบันทึกครั้งล่าสุดในปี 2546
และจากวิดีโอที่โพสต์ลงโซเชียลมีเดียเผยให้เห็นว่า มีชาวบ้านจำนวนมากร้องขอความช่วยเหลือ ขณะที่คลื่นโคลนสูงขนาด 3 เมตรไหลผ่านถนนในกรุงกีโต สร้างความเสียหายให้ต้นไม้ ยานพาหนะ ถังขยะ และเสาไฟฟ้า ซึ่งบางส่วนยังถูกกลบฝังอยู่ใต้โคลนด้วย
“สภาพดินบนทางลาดมีความอิ่มตัวจากน้ำมากเกินไป ทำให้เกิดการไถลจากเนินลาดลงมาตามช่อง และเกิดเป็นดินถล่ม” กวาร์เดราสกล่าว
ภาพ: Rodrigo Buendia / AFP
อ้างอิง:
