นายพิเชษฐ์ ศรีวัฒนตระกูล ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง เขต 1 จังหวัดนครปฐม ยอมรับ พบความผิดพลาดจากการบันทึกข้อมูลผลการนับคะแนนใหม่ จากกรณีเจ้าหน้าที่ที่บันทึกเอกสาร ส.ส. 5/18/1 ในหน่วยเลือกตั้งที่ 25 เทศบาลนครปฐม ไม่ตรงกัน ซึ่งมี 3 ชุด คือ
- นำไปติดที่บอร์ดประชาสัมพันธ์ 2. นำลงหีบพร้อมบัตรเลือกตั้งและกระดาษขีดแต้ม 3. จะนำไปให้เจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูลลงคอมพิวเตอร์
โดยนำผลจากส่วนที่ต้องนำไปบันทึกข้อมูลลงคอมพิวเตอร์ผิดตำแหน่ง ซึ่งหน่วยเลือกตั้งที่ 25 นั้น ผู้สมัครหมายเลข 2 พรรคประชาธิปัตย์ได้ 66 คะแนน เจ้าหน้าที่ได้เขียนผิดตำแหน่งไปบันทึกลงให้หมายเลข 1 ได้ 66 คะแนน ส่วนหมายเลข 2 ได้ 0 คะแนน
โดยเอกสาร ส.ส. 5/18/1 ที่เป็นส่วนปิดประกาศบอร์ดประชาสัมพันธ์นั้น ลงบันทึกถูกต้อง ทำให้การรวบรวมคะแนนผิดพลาด
ส่งผลให้ผลการเลือกตั้งเขต 1 นครปฐม พ.ท. สินธพ แก้วพิจิตร พรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 2 ได้คะแนน 35,711 คะแนน น.ส. สาวิกา ลิมปะสุวัณณะ พรรคอนาคตใหม่ หมายเลข 9 ได้ 35,707 คะแนน ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ชนะไป 4 คะแนน
สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้น ผลการนับคะแนนใหม่เขต 1 นครปฐม คืนวันที่ 28 เมษายน ผลไม่เป็นทางการของ กกต. พรรคอนาคตใหม่ได้ 35,707 คะแนน พรรคประชาธิปัตย์ได้ 35,645 คะแนน ทำให้พรรคอนาคตใหม่ชนะพรรคประชาธิปัตย์ไป 62 คะแนน
ขณะที่ผลการนับคะแนนของพรรคประชาธิปัตย์ได้ 35,711 คะแนน พรรคอนาคตใหม่ได้ 35,707 คะแนน พรรคประชาธิปัตย์ชนะพรรคอนาคตใหม่ 4 คะแนน ด้านพรรคอนาคตใหม่ยอมรับว่านับได้ใกล้เคียงของพรรคประชาธิปัตย์ ขอให้รอผลทางการจาก กกต.
ในเวลาต่อมา กกต. รวมคะแนนใหม่พบว่า พรรคประชาธิปัตย์ชนะพรรคอนาคตใหม่ 4 คะแนน
สำหรับผลการนับคะแนนในวันที่ 24 มีนาคมของเขต 1 นครปฐม ปรากฏว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้ 35,762 คะแนน พรรคอนาคตใหม่ได้ 35,615 คะแนน พรรคประชาธิปัตย์ชนะไป 147 คะแนน
ส่วนที่พรรคอนาคตใหม่นับเองและนำไปร้องขอให้ กกต. มีมติให้มีการนับคะแนนใหม่ทั้งเขตนั้น พรรคอนาคตใหม่ได้ 35,766 คะแนน ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ได้ 35,762 คะแนน ทำให้พรรคอนาคตใหม่ชนะไป 4 คะแนน
ด้วยคะแนนที่เปลี่ยนแปลงไปมาถึง 5 ครั้งนี้ ทำให้ล่าสุดพรรคอนาคตใหม่ออกแถลงการณ์ขอให้ กกต. จัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ในเขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดนครปฐมทั้งเขต
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า