×

เลขาฯ กกต. เดินแผนจัดทำประชามติพร้อมวันเลือกตั้ง ชี้นายกรัฐมนตรีต้องเป็นผู้กำหนดวัน

โดย THE STANDARD TEAM
11.09.2025
  • LOADING...

วันนี้ (11 กันยายน) แสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการจัดทำประชามติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย ว่าให้จัดทำประชามติจำนวน 3 ครั้งโดยครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 สามารถจัดทำรวมกันได้

 

แสวงระบุว่า การจัดทำประชามติคงไม่แตกต่างจากการจัดการเลือกตั้ง สส. สามารถจัดทำไปพร้อมกันได้ แต่ต้องรอให้มีกฎหมายให้มีผลบังคับใช้อีก 1 ฉบับก่อน ขณะเดียวกันตอนนี้ ทาง กกต.ได้ร่างระเบียบอีกฉบับหนึ่งไว้รองรับแล้ว คือการกำหนดให้สามารถจัดทำประชามติไปพร้อมกับการเลือกตั้ง สส.ได้ พร้อมยืนยันว่า กกต. มีความพร้อม ไม่ว่าจะเป็นการประชามติแยก หรือการทำประชามติพร้อมกับการเลือกตั้ง สส.

 

สำหรับการใช้งบประมาณและบุคลากรในการเลือกตั้งนั้น แสวงกล่าวว่า ค่าใช้จ่ายไม่น่าจะมีจำนวนมาก แต่จะเพิ่มเฉพาะกิจกรรม แต่บุคคลากร หรือกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) และหน่วยเลือกตั้งเป็นหน่วยเดียวกัน โดยการเลือกตั้ง สส. ก็คือการออกเสียงประชามติ ซึ่ง กกต. ทราบอยู่แล้วว่า มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ส่วนการทำประชามติก็จะมีเวทีให้แสดงความคิดเห็นของฝ่ายที่เห็นด้วยกับไม่เห็นด้วยในประเด็นที่มีการออกเสียงประชามติ หรือทำเอกสารแจกเรื่องประชามติ ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่เพิ่มเข้ามา แต่คิดว่าไม่น่าจะมาก

 

ส่วนถ้าจัดแยกกัน ค่าใช้จ่ายในการจัดทำประชามติก็จะพอๆ กับการจัดการเลือกตั้ง สส. เพราะต้องให้คน 55 ล้านคนที่มีสิทธิ์ออกมาใช้สิทธิ์ถึง 2 ครั้ง แต่หากจัดรวมก็ออกมาใช้สิทธิ์เพียงครั้งเดียว ค่าใช้จ่ายก็จะเพิ่มเฉพาะกิจกรรมที่มีความแตกต่างกันแค่นั้นเอง

 

แสวงกล่าวต่อไปว่า ส่วนเรื่องบัตรที่ใช้ในการออกเสียงและบัตรที่ใช้ในการเลือกตั้ง ซึ่ง กกต.มีความคุ้นเคยกับการเลือกตั้ง 2 แบบอยู่แล้ว คือการเลือกตั้งนายกและสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ก็ใช้บัตร 2 ใบเหมือนกัน ดังนั้นตรงนี้เราก็แค่เพิ่มบัตรสำหรับการทำประชามติขึ้นมา 1 ใบ แล้วบริหารจัดการนับให้มีประสิทธิภาพ คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ส่วนจะจัดการประชามติครั้งที่หนึ่งกับครั้งที่ 2 รวมกันหรือไม่นั้นอยู่ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้พิจารณา กกต. มีหน้าที่จัดการออกเสียงให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

 

นายแสวงกล่าวด้วยว่า สำหรับวันออกเสียงประชามติจะจัดขึ้นเมื่อไหร่นั้น นายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้กำหนดโดยต้องมาหารือกับทาง กกต. ตามมาตรา 9 ซึ่งถ้าเป็นไปตามที่ฝ่ายการเมืองให้สัญญาประชาคมไว้ ก็มีแค่นี้เอง ส่วนรูปแบบบริหารจัดการ จะยึดเอาความสะดวกของประชาชนเป็นหลัก ซึ่ง ที่สำนักงาน กกต. คิดกันเอาไว้ก็คือใช้หน่วยเลือกตั้งเดียวกัน คูหาเดียวกัน เพราะเป็นผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งคนเดียวกัน แค่ใช้บัตรคนละใบเพื่อป้องกันความสับสนในการขานคะแนน เพราะในการเลือกตั้งท้องถิ่น การเลือกนายกและสมาชิก อบจ. หรือเทศบาลก็แยกคนละบัตรอยู่แล้ว ซึ่งคาดว่าไม่น่าจะใช้เวลามาก ส่วนปัญหาการดำเนินการเกี่ยวกับการเลือกตั้งของเจ้าหน้าที่ในครั้งที่ผ่านๆ มายืนยันว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก จะอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนเป็นอย่างดี

 

ขณะที่ได้วางไทม์ไลน์ไว้แล้วหรือยังว่า หลัง 4 เดือนการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แสวงกล่าวว่า เราต้องดูว่าทาง ครม. จะมีการนับหนึ่งเมื่อไหร่ แล้วเป็นไปเช่นนั้นหรือไม่ ส่วนกกต. ต้องตื่นตัวทุกวันอยู่แล้ว และเรามีตารางไว้อยู่แล้ว เมื่อมีเหตุเกิดขึ้น สมมุติมีการยุบสภา เราก็เอาตารางของเราไปเทียบ ซึ่งการเลือกตั้งก็มีกิจกรรมที่ต้องดำเนินการตามกำหนดเวลาอยู่แล้ว กกต. จะต้องนำตารางการจัดการเลือกตั้งและการออกเสียงประชามติมาเทียบกัน แล้วจะทำเป็นตารางเวลา เพราะการทำประชามติก็ต้องมีเวลาให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็น ว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย สิ่งเหล่านี้เป็นรูปแบบของการทำงานตามกฎหมาย อยู่แล้วเหมือน สส. ลาออกเราจะรู้ทันที

 

ส่วน กกต. มั่นใจว่าจะสร้างความเข้าใจในการทำประชามติในเวลาอันสั้นนี้หรือไม่ แสวงกล่าวว่า เราแค่อธิบายในขั้นตอน ส่วนจะออกมาดีหรือไม่อยู่ที่เจ้าของเรื่องคือรัฐบาล

 

ส่วนหากกระบวนการในการทำประชามติแล้วเกิดการยุบสภา กกต. ก็ยังคงเดินหน้าไปต่อใช่หรือไม่นั้น แสวงกล่าวว่า ประชามติไม่ได้หยุด เพราะเป็นไปตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ อย่างทั้งคนที่เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับการทำประชามติ กับกลุ่มคนเลือกตั้งเป็นกลุ่มคนใกล้ๆ ก็จะทำให้เกิดการข้ามไปข้ามมา เหมือนที่ว่าประเด็นประชามติสามารถหาเสียงได้ด้วย

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising