วันนี้ (19 มิถุนายน) แสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง พร้อมด้วย กิตติพงษ์ บริบูรณ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง เปิดเผยว่าวันนี้ทางสำนักงาน กกต. ได้เสนอผลการนับคะแนนเลือกตั้ง ส.ส. แบบเขต 400 เขต และแบบบัญชีรายชื่อพรรคการเมืองจำนวน 100 คน 67 พรรคการเมือง พร้อมทั้งผลการตรวจสอบเบื้องต้นจากรายงานการเลือกตั้งประจำจังหวัดทั้ง 77 จังหวัด และรายงานตรวจสอบสิทธิสมัครเลือกตั้งของผู้ได้รับการเลือกตั้ง รวมถึงเรื่องร้องคัดค้านการเลือกตั้งใน กทม. ต่างจังหวัด และกลุ่มภารกิจงานสืบสวนสอบสวนการเลือกตั้ง ส.ส.
ที่ประชุม คณะกรรมการ กกต. ได้มีมติให้ประกาศผลการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตทั้ง 400 เขต และแบบบัญชีรายชื่อครบทั้ง 100 คน โดยที่คณะกรรมการการเลือกตั้งยังมีอำนาจสืบสวนและไต่สวนตามมาตรา 138 ของ พ.ร.ป.การเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ. 2561 ดังนั้นหากประกาศผลการเลือกตั้งแล้วแต่มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าผู้สมัครหรือผู้ใดทุจริตการเลือกตั้ง หรือรู้เห็นกับการกระทำของคนอื่น ให้ กกต. ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้น
สำหรับผู้ที่ได้รับการประกาศรับรองสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสามารถมารับหนังสือรับรองการเป็น ส.ส. ทั้งแบบบัญชีรายชื่อและแบบแบ่งเขต ได้ตั้งแต่วันที่ 20-24 มิถุนายน 2566 ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ
ทั้งนี้ภายหลังการรับรองสมาชิกภาพ ส.ส. จะมีการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคก้าวไกล กรณีการถือหุ้น ITV เลยหรือไม่นั้น เลขาธิการ กกต. ระบุว่า เรื่องนี้ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการสืบสวนของสำนักงาน กกต. จึงยังไม่เห็นข้อเท็จจริงทั้งหมด ซึ่งต้องดูว่าข้อกฎหมายจะเปิดช่องให้ดำเนินการได้แค่ไหน อย่างไร ซึ่งตอนนี้การพิจารณาสำนวนยังไม่แล้วเสร็จ
ส่วนกระบวนการจะต้องเร่งให้แล้วเสร็จก่อนโหวตนายกหรือไม่ แสวงกล่าวย้ำว่า เราไม่สนใจเรื่องการเมือง แต่เป็นเรื่องของกระบวนการการทำงาน ต้องได้ข้อเท็จจริงให้สิ้นกระแสความ ซึ่งจะต้องได้รับความร่วมมือทั้ง 2 ฝ่าย ถ้าจะมีความรวดเร็วก็เกิดขึ้นกับการทำงาน ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองแต่อย่างใด
แสวงยังกล่าวถึงข้อร้องเรียนการทุจริตการเลือกตั้งในหลายเขต ว่าขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างที่สำนักงานกำลังพิจารณา ซึ่งมีกรอบระยะเวลาให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี แต่ที่ต้องประกาศ 400 เขตไปก่อน เพราะมองว่ากระบวนการพิจารณา สืบสวนไม่สามารถทำให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 60 วันตามที่กฎหมายกำหนดได้ เพราะต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่จะได้มีโอกาสแก้ต่างให้กับตัวเอง จึงได้ประกาศผลไปก่อนโดยไม่ตัดอำนาจการตรวจสอบของ กกต.