ข้อมูลล่าสุดจาก S&P Global Market Intelligence ระบุว่า อัตราค่าระวางสินค้าทั่วโลกปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นผลมาจากปริมาณการค้าโลกที่ชะลอตัวจากความต้องการสินค้าลดลง ซึ่งอาจเป็นหนึ่งในสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจโลกกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย
รายงานของ S&P ระบุด้วยว่า การปรับตัวลดลงของค่าระวางสินค้าส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากปัญหาการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานที่เริ่มคลี่คลายลง แต่อีกส่วนมาจากความต้องการตู้คอนเทนเนอร์และเรือที่ชะลอตัวลงตามปริมาณการค้าด้วยเช่นกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- กูรูชี้ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์กำลังเขย่าห่วงโซ่การผลิตโลก เตือนไทยมัวแต่เหยียบเรือสองแคม สุดท้ายอาจตกขบวน
- วิเคราะห์ 5 สัญญาณ บ่งชี้ เงินเฟ้อ โลกใกล้ถึงจุดพีค
- ต่างชาติแห่ปักหมุด ลงทุนเวียดนาม ยอด FDI พุ่งแซงไทยแบบไม่เห็นฝุ่น สัญญาณบ่งชี้ ไทยเริ่มไร้เสน่ห์?
“ระดับความแออัดของท่าเรือที่ลดลงอย่างมาก ประกอบกับจำนวนสินค้าขาเข้าที่ลดลง เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการลดลงอย่างมีนัยสำคัญของอัตราค่าระวางสินค้า เมื่อพิจารณาจากปริมาณการค้าที่ลดลง ทำให้เราคาดการณ์ว่าระดับความแออัดของท่าเรือจะไม่ปรับสูงขึ้นในไตรมาสต่อๆ ไป” S&P ระบุ
ข้อมูลของ S&P ยังแสดงให้เห็นว่าอัตราค่าระวางสำหรับตู้คอนเทนเนอร์และเรือเทกองแห้ง หรือเรือบรรทุกวัตถุดิบและสินค้าเทกอง ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่แบบจำลองการคาดการณ์อัตราค่าระวางของ S&P ได้คาดการณ์ดัชนีค่าระวางเรือ (Baltic Dry Index) ซึ่งเป็นบารอมิเตอร์สำหรับราคาเคลื่อนย้ายวัตถุดิบหลักในทางทะเลว่าจะปรับลดลงประมาณ 20-30% ในปีนี้ ก่อนที่จะค่อยๆ ฟื้นตัวในปี 2024
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นตอกย้ำถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก เนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคลดลง ท่ามกลางค่าครองชีพและอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น
โดยรายงานดัชนีชี้วัดการค้าสินค้าขององค์กรการค้าโลกที่เผยแพร่ในเดือนสิงหาคมแสดงให้เห็นว่า ปริมาณการค้าสินค้าโลกในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาเติบโตได้เพียง 3.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับในไตรมาสสุดท้ายของปี 2021 ที่มีการเติบโตอยู่ที่ 5.7% ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากปัญหาความขัดแย้งในยูเครนและการล็อกดาวน์จากการระบาดใหญ่ในจีน
แม้ว่า WTO คาดการณ์ว่าการค้าโลกจะเพิ่มขึ้นในปีนี้ แต่ปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นทั้งสงครามในยูเครน แรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น และประเทศที่พัฒนาแล้วจะใช้นโยบายการเงินแบบเข้มงวด ก็เริ่มทำให้สถานการณ์มีความไม่แน่นอนมากขึ้น
อีแดจิน หัวหน้านักวิเคราะห์การขนส่งของ S&P Global Market Intelligence กล่าวว่า ตลาดสินค้าเทกองแห้ง (Dry Bulk Market) มีแนวโน้มจะปรับตัวดีขึ้นตามฤดูกาลในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แต่การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ซึ่งเป็นผลมาจากปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์ ก็ยังมีโอกาสจะทำให้ค่าระวางเรือในระยะสั้นปรับลดลงได้อีก
อย่างไรก็ดี ในกรณีที่นโยบายปลอดโควิดของจีนมีการเปลี่ยนแปลง หรือรัสเซีย-ยูเครนสามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิง (Ceasefire Agreement) ได้ ก็อาจทำให้อัตราค่าระวางสินค้าเทกองแห้งเพิ่มขึ้นอีกครั้ง
อ้างอิง: