บรรดานักเศรษฐศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจชั้นนำของจีนต่างออกมารวมตัวแสดงความเห็นคาดการณ์ทิศทางแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน โดยระบุตรงกันว่า จีนจะขยับสถานะขึ้นเป็นประเทศรายได้สูงติดอันดับต้นๆ ของโลกในอีก 1 ปีข้างหน้า หรือไม่เกินสิ้นปี 2023 อันเป็นผลมาจากนโยบายสนับสนุนการเติบโต ควบคู่ไปกับการกระจายความมั่งคั่ง ซึ่งทำให้เศรษฐกิจจีนกลายเป็นหัวรถจักรที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก
ความเห็นดังกล่าวนับเป็นข่าวดีที่สดใสต้อนรับปี 2022 อีกทั้งยังเป็นการขจัดมุมมองที่ไม่ชัดเจนและความไม่เชื่อมั่นของเศรษฐกิจจีนที่เพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา หลังจากที่ตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจตามรายงานของรัฐบาลกรุงปักกิ่งชะลอตัวลงเหลือ 4 เปอร์เซ็นต์ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2021 จนส่งผลให้หลายองค์กรชั้นนำระดับโลก รวมถึงกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ออกมาปรับลดคาดการณ์การเติบโตของจีนในปี 2022
ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์ส่วนหนึ่งของจีนมองว่าเศรษฐกิจจีนปีนี้จะพลิกฟื้นกลับมาได้ เพราะสถานการณ์ในภาคอสังหาริมทรัพย์คลี่คลายได้อย่างนุ่มนวล และกำลังการบริโภคของชาวจีนในประเทศทยอยฟื้นตัวกลับมาได้อย่างแข็งแกร่ง
ยิ่งไปกว่านั้นนักวิเคราะห์ยังมองว่าจีนมีความได้เปรียบตรงที่นโยบายการเงินที่สวนทางกับประเทศอื่นๆ อีกทั้งรัฐบาลจีนยังมีมาตรการและเครื่องมืออีกมากมายที่ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจจีนให้เติบโตได้ในระยะยาว ยังไม่รวมถึงคำมั่นสัญญาของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับการจัดระเบียบเพื่อกระจายความมั่งคั่ง ทำให้การเติบโตของจีนมีเสถียรภาพมั่นคงมากยิ่งขึ้น และจะเป็นการเติบโตที่เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ
โดยจัสติน หลิน อี้ฝู (Justin Lin Yifu) อดีตหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารโลก และสมาชิกคณะกรรมการประจำสภาที่ปรึกษาทางการเมืองแห่งประชาชนจีน (CPPCC) แสดงความมั่นใจว่าเศรษฐกิจของจีนจะสามารถเติบโตได้ประมาณ 6 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ และจีนจะยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนของการเติบโตของโลกในอีก 2-3 ทศวรรษข้างหน้า
อ้างอิง: