ประมวลวาทะเด็ดบนเวทีเสวนา ‘ปัญหาเศรษฐกิจที่รอรัฐบาลใหม่’ ที่จัดโดยมูลนิธิคึกฤทธิ์ 80 ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยในงานดังกล่าวมีนักเศรษฐศาสตร์มากประสบการณ์ 2 ท่าน ได้แก่ ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงพลังงาน และ ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ อดีตที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย และที่ปรึกษากลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) เป็นผู้อภิปรายให้มุมมองเกี่ยวกับปัญหาเชิงเศรษฐกิจของประเทศไทย และมี ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และประธานกรรมการมูลนิธิคึกฤทธิ์ 80 ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นผู้ดำเนินการเสวนา
1. ศุภวุฒิ สายเชื้อ อดีตที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย และที่ปรึกษากลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP)
“หากการจัดตั้งรัฐบาลทำได้ช้า แน่นอนว่ามันจะเป็นสุญญากาศทางเศรษฐกิจ ที่น่าห่วงคือเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกายังมีความผิดปกติอยู่ เราเห็นแบงก์ล้ม และยังมีภาวะ Inverted Yield Curve คือดอกเบี้ยระยะสั้นสูงกว่าระยะยาว ซึ่งสะท้อนว่ามีโอกาสสูงที่เศรษฐกิจจะถดถอย ถ้าเราทอดเวลาตั้งรัฐบาลไปจนกระทั่งเกิด Recession ขึ้นมาก็จะลำบาก เพราะเราไม่มีรัฐบาลที่เข้ามาดีลกับปัญหานี้”
2. ณรงค์ชัย อัครเศรณี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงพลังงาน
“ฐานะการเงินของประเทศเราเวลานี้ดีมาก มีเงินสำรองสูง หนี้ระยะสั้นและหนี้ต่างประเทศมีไม่มาก แต่ฐานะการคลังเราไม่ดี รัฐบาลไม่มีเงิน หนี้สาธารณะชนเพดานที่ 60% จนต้องขยายเพดานเป็น 70% แต่ภายใน 10 ปีก็ต้องกลับมาที่ระดับ 60% อีกครั้ง เพราะฉะนั้นรัฐบาลที่บอกว่าจะให้นู่นให้นี่อาจไม่มีเงินให้หรอก คุณทั้งหลายอย่าไปเชื่อ”
3. ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และประธานกรรมการมูลนิธิคึกฤทธิ์ 80 ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
“นโยบายทลายทุนผูกขาดกระทบตลาดจริง แต่ต้องดูว่ากระทบส่วนไหน มันกระทบหุ้นที่ถูกปั่นหรือมีลักษณะขึ้นมาเพราะมี Market Maker ส่วนหุ้นที่เป็นเบสิกของบริษัทใหญ่จริงๆ ไม่สะเทือน คนที่ออกมาพูดเพราะกลัวนโยบายนี้ ผมมองว่านโยบายนี้ไม่ได้ทำให้ตลาดแดงในสิ่งที่ไม่ควรแดง และอยากฝากสื่อมวลชนช่วยกันเชียร์นโยบายนี้ เพราะเมืองไทยเรามีการผูกขาดจนเริ่มกลายเป็นนิสัย ถ้ามีโอกาสครอบครองได้ต้องรีบทำ ซึ่งไม่ดีสำหรับประเทศชาติ”
4. ศุภวุฒิ สายเชื้อ อดีตที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย และที่ปรึกษากลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP)
“นโยบายของพรรคก้าวไกลก็มีส่วนที่ดีและเห็นด้วยคือ การทลายทุนผูกขาด แต่บางเรื่อง เช่น การเก็บภาษีจากทุนเพื่อนำมาทำรัฐสวัสดิการ อาจจะต้องคิดให้ดี เพราะเศรษฐกิจต้องขับเคลื่อนด้วยการลงทุนในระยะยาว ฉะนั้นเรื่องนี้ต้องมีความพอดี มีงานวิจัยจำนวนมากที่ระบุว่า ไซส์ของรัฐบาลไม่ควรใหญ่เกิน 20% ของ GDP จะดีที่สุด ถ้าเลยไปกว่านั้นรัฐบาลจะเริ่มเป็นภาระต่อ GDP”
5. ณรงค์ชัย อัครเศรณี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงพลังงาน
“สิ่งที่รัฐบาลใหม่ควรทำอย่างเร่งด่วนคือ นำระบบไอทีเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในการทำมาหากิน เปรียบเสมือนเป็นการติดอาวุธให้คนไทย ขณะเดียวกันต้องให้ความสำคัญกับปัญหาคอร์รัปชัน ให้สร้างความโปร่งใสโดยการเปิดให้มีระบบ Whistleblower สำหรับแจ้งเบาะแส เรื่องนี้จะช่วยภาคธุรกิจได้มาก”
