16 สิงหาคมนี้จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจนัดแรกของรัฐบาลประยุทธ์ 2 โดยมี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมนั่งหัวโต๊ะเป็นประธาน
อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่าวันศุกร์ที่ 16 สิงหาคมนี้จะมีการพิจารณามาตรการเร่งด่วน โดยหลักการออกมาตรการเร่งด่วนเบื้องต้นคือมุ่งกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ และต้องเพิ่มรอบการหมุนของเม็ดเงินกระจายไปยังกลุ่มต่างๆ ในวงกว้างที่สุด โดยเฉพาะในกลุ่มฐานรากซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่
ขณะเดียวกันจะเร่งแก้ปัญหาที่กระทบกับชาวบ้านเฉพาะหน้า โดยเฉพาะเรื่องภัยแล้งและราคาพืชผลการเกษตร
ทั้งนี้มาตรการต่างๆ จะเชื่อมโยงไปกับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจระยะกลางและระยะยาวด้วย ซึ่งรายละเอียดมาตรการทั้งหมดจะขออนุญาตบอกกล่าวและอธิบายเพิ่มเติมหลังมาตรการนั้นๆ ผ่านคณะรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งให้คำมั่นว่าจะเป็นมาตรการที่เห็นผลและเป็นประโยชน์กับประชาชนและประเทศชาติอย่างแท้จริง
สำหรับรายงานข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้เกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์พอสมควรคือ ‘มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองรองโดยแจกเงินคนละ 1,500 บาท’
สำหรับมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวที่กระทรวงการคลังมีแนวคิดจะเสนอให้เงินไปเที่ยวเมืองรองคนละ 1,500 บาท โดยจ่ายผ่านการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) ซึ่งจะให้แก่ประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปจำนวน 10 ล้านคนเพื่อนำไปเที่ยวเมืองรอง เป็นเงินงบประมาณ 15,000 ล้านบาท แต่ประเมินว่าจะทำให้มีเงินสะพัดจากการท่องเที่ยวครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 20,000-30,000 ล้านบาท
ขณะที่มาตรการเกี่ยวกับสินค้าเกษตร อ้างอิงตามนโยบายหลักของพรรคประชาธิปัตย์ โดยพืชเศรษฐกิจหลักที่พรรคประชาธิปัตย์ได้หาเสียงไว้ เช่น ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 1 หมื่นบาท, ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 1.5 หมื่นบาท, ยางพารา กิโลกรัมละ 60 บาท และปาล์มน้ำมัน กิโลกรัมละ 4 บาท
ขณะเดียวกันธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรจะสนับสนุนด้านดอกเบี้ยเพื่อลดภาระให้เกษตรกร รวมถึงมีการจ่ายเงินชดเชยต้นทุนการผลิต
นอกจากนี้ยังต้องจับตาการเติมเงินให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน 11.4 ล้านคน ซึ่งจะเพิ่มเติมการช่วยกลุ่มคนชราและมารดาประชารัฐตามนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งระบุว่าสามารถดำเนินการได้ทันที
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์