วันนี้ (16 พฤษภาคม) ที่อาคารชาเลนเจอร์ ศูนย์ประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการจัดสัมมนาเตรียมความพร้อมการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) 2567 ให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัด, ปลัดจังหวัด, ผู้อำนวยการสำนักงาน กกต. ประจำจังหวัดทั่วประเทศ, นายอำเภอ และผู้อำนวยการสำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร ทั้ง 50 เขต โดยมี แสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ได้ชี้แจงแนวทางปฏิบัติและขั้นตอนกระบวนการเลือก สว. ภารกิจ บทบาท ของจังหวัด อำเภอ และเขต ถือเป็นการซักซ้อมร่วมกันในพื้นที่ แต่วันนี้เป็นการทำความเข้าใจครั้งสุดท้ายก่อนลงสนามจริง
แสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. กล่าวตอนหนึ่งว่า หน่วยงานของกระทรวงมหาดไทยเหมือนกระดูกสันหลังหรือเส้นเลือดใหญ่ของการเลือกตั้ง ซึ่งถือว่ามีประสบการณ์ และให้ความร่วมมือในการจัดการเลือกตั้งต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมา การเลือก สว. ครั้งนี้ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะมีผู้สมัครจำนวนเท่าไร แต่ข้อมูลจนถึงเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม มีผู้รับใบสมัครไปแล้วประมาณ 14,000 คน
ดังนั้นภาระงานของผู้ปฏิบัติงานหน้างานจะมีมาก นอกจากจัดการเลือก สว. แล้วยังมีหน้าที่ส่งศาลฎีกาเกี่ยวกับคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม ถือเป็นภาระหนัก เพราะเวลามีจำกัด อย่างไรก็ตาม ตนได้กำชับสำนักงานฯ ให้สนับสนุนผู้ว่าฯ และนายอำเภอเต็มที่ ที่ไหนมีพนักงานเพียงพอก็ประกบทุกหน่วย หน้างานปัญหาเกิดขึ้นได้ แต่ตนเชื่อว่า ด้วยการสนับสนุนของกระทรวงมหาดไทยจะทำให้การเลือก สว. สำเร็จเรียบร้อย
แสวงกล่าวอีกว่า ส่วนที่เป็นประเด็นมาร่วม 2-3 เดือน ที่คนอาจยังไม่ได้รับข้อมูล หรือรับแล้ว แต่เบี่ยงประเด็นให้คนในสังคมสับสน กกต. เจอสภาพนี้มาตลอด เช่น กรณีที่มีนักวิชาการที่ไปให้ข้อมูลผ่านสื่อต่างๆ ก็ไม่อ่านกฎหมาย แล้วพูดไปจนทำให้สังคมเกิดความสับสน ยืนยันว่าสิ่งที่ กกต. ออกแบบนั้นเป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ เราก็ต้องทำตามกฎหมาย หากหลุดออกจากกฎหมายก็เข้าคุกเข้าตะราง
แม้จะบอก สว. ให้เป็นกลาง แต่ก็เป็นการเมืองอยู่ดี ดังนั้นเมื่อมีการแข่งขัน มักไม่ได้พูดถึงความถูกต้อง แต่พูดถึงใครได้ใครเสีย แต่สำหรับ กกต. จะต้องพูดถึงความถูกต้อง เป็นไปตามกฎหมาย แต่ที่สังคมสับสน ส่วนหนึ่งคือบรรดานักวิชาการ นักกฎหมาย ที่ไปพูดผ่านสื่อ ไม่อ่านกฎหมายสักตัวแล้วพูดให้สังคมสับสน อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าการเลือก สว. ครั้งนี้มีความซับซ้อน แต่หากพิจารณาและทำเป็นขั้นเป็นตอนก็ถือว่าไม่ซับซ้อน
การเลือก สว. ครั้งนี้ รัฐธรรมนูญมาตรา 107 ให้มาจากการเลือกกันเองจากผู้มีความรู้และประสบการณ์ รวมถึงประวัติการทำงาน อ่านสองบรรทัดก็รู้แล้วว่าประชาชนไม่มีสิทธิ แต่การเลือก สว. นั้น ไม่ใช่การเลือกคนมาจากอนาคตเหมือนการเลือก สส. ที่อนุญาตให้มีการแสดงวิสัยทัศน์ ว่าเมื่อเป็นแล้วจะทำอะไร แต่ สว. ซึ่งจะเข้ามาทำหน้าที่ในการออกกฎหมายต่างๆ ต้องการคนดี ซึ่งดูจากประวัติที่ผ่านมา ไม่ใช่ดูจากคำพูดว่าเข้าไปแล้วจะไปทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ ไม่ได้เลือกจากการแสดงวิสัยทัศน์ จุดยืน เหมือนนักการเมือง กกต. ก็ต้องมาออกแบบการเลือกตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด
ส่วนการแนะนำตัวของผู้สมัคร ขณะนี้ กกต. ได้แก้ไขระเบียบแนะนำตัวแล้ว สามารถแนะนำตัวผ่านสื่อโซเชียลทุกแพลตฟอร์มได้ แต่ต้องเป็นไปตามระเบียบแนะนำตัวตามแบบ สว. และขอให้ศึกษาระเบียบแนะนำตัวให้ชัดเจน ส่วนตัวก็ยอมรับว่า การเลือก สว. ครั้งนี้ ตนรู้สึกสบายใจ เพราะหลายคนเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ และจะเข้าใจกฎหมาย กฎระเบียบต่างๆ จากการศึกษาเอง แต่รายละเอียดบางอย่างจะต้องซักซ้อมเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
แสวงยังให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมถึงการป้องกันการฮั้วเพิ่มเติมจากกรณียกคำวินิจฉัยของศาล ว่าไม่เกี่ยวกับทางกระทรวงมหาดไทย หรือ กทม. เพราะเป็นเรื่องของการทำให้การเลือกไม่บริสุทธิ์และเที่ยงธรรม ถือเป็นสำนวน เป็นคำร้อง ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานในการที่จะป้องกันการจัดตั้งหรือการฮั้วการออกเสียงเลือก สว. ก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่ง ที่มาเล่าให้ที่ประชุมฟังก็เพื่อที่จะบอกว่า ไม่มีกระบวนการใดที่จะหยุดยั้งให้เราไม่ได้ สว. 200 คน ซึ่งความผิดดังกล่าวไม่ได้พูดถึงประเด็นนี้ชัดเจน
เพียงแต่บอกว่า ในกระบวนการเลือก ทั้งผู้ว่าฯ นายอำเภอ ผู้อำนวยการเขต ดูแลอยู่แล้ว และจะรับผิดชอบโดยตรง รวมถึงต้องวินิจฉัย แต่การทำให้การเลือกไม่สุจริตและเที่ยงธรรม หรือการฮั้ว การซื้อเสียง ถือเป็นอีกช่องทางหนึ่ง ซึ่งเป็นสำนวน อาจต้องใช้เวลา เนื่องจากต้องสืบพยานบุคคล เพราะเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ มาประกอบการพิจารณา ไม่ใช่กระบวนการ ซึ่งเป็นวิธีการลงคะแนน วิธีการนับคะแนน ที่เราจะวินิจฉัยทันที
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ามีประชาชนให้ความสนใจและมาขอรับใบสมัคร 17,000 คน สะท้อนอะไรหรือไม่ แสวงกล่าวว่า เราเฝ้าดูอยู่ และมีเวลาจนถึงวันที่ 24 พฤษภาคม เหลือเวลาอีกประมาณ 10 วัน ส่วนคนจะมาสมัครเพิ่มหรือไม่ ตอนนี้ยังคาดคะเนอะไรไม่ได้ ส่วนกรณีที่มีผู้มาสมัครน้อย ตามกฎหมายระบุว่า หากสมัครไม่ครบกลุ่มให้ดำเนินการเลือกตามมาตรา 19 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วย สว. และถ้าเป็นเช่นนั้นก็จะทำให้เราทำงานได้ง่ายขึ้น
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ามีแผนรองรับกรณีกลุ่มผู้สมัคร สว. ไปยื่นศาลปกครองเรื่องระเบียบการแนะนำตัวของผู้สมัคร สว. และเตรียมนัดพิพากษาในวันที่ 24 พฤษภาคมนี้หรือไม่ แสวงกล่าวว่า ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ ต้องดูว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยอย่างไร
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า กกต. ได้คาดการณ์กรณีระเบียบยังมีปัญหาที่ต้องแก้ไขอีกหรือไม่ แสวงกล่าวว่า ไม่อยากพูดเรื่องในอนาคต แต่ขอให้รอดูคำวินิจฉัย และยืนยันว่า ตนไม่มีอะไรหนักใจในการเลือก สว. ชุดนี้ เพียงแต่มีคนอื่นหนักใจแทนเรา
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า การฮั้วหากมีข้อมูลเราสามารถตัดไฟแต่ต้นลมได้หรือไม่ แสวงกล่าวว่า หากมีครบถ้วนสมบูรณ์ และสามารถวินิจฉัยได้เลย แต่เรื่องการฮั้วต้องอาศัยการสืบสวนสอบสวน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง เพราะต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย แต่ถ้าเป็นเรื่องกระบวนการก็จะเห็นทันที จะดำเนินการได้ง่ายกว่า ทั้งนี้เราอยากทำให้การสืบสวนสอบสวน ไม่ว่าจะเป็นสำนวนในการทุจริต หรือกระบวนการทำให้เสร็จ เพื่อให้สะเด็ดน้ำในทุกอำเภอ เว้นแต่มีความซับซ้อนในการหาพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และพยานบุคคล แต่ถ้ามีเพียงพอก็ดำเนินการได้เลย
- อัปเดตข่าวล่าสุด เลือก สว. 2567 เกาะติดผลการเลือก สว. ได้ที่ https://thestandard.co/thai-senate-election-2024/, Facebook : THE STANDARD และ YouTube : THE STANDARD
