วันนี้ (9 มิถุนายน) พล.ต.ท. ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (ผบช.ภ.2) ได้สั่งการด่วนไปยังทุกสถานีตำรวจในพื้นที่ โดยเฉพาะ 3 จังหวัดชายแดนตะวันออก ได้แก่ สระแก้ว จันทบุรี และตราด ให้เพิ่มมาตรการคุมเข้มความปลอดภัย หลังเกิดสถานการณ์ด้านความมั่นคงในพื้นที่ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี
โดยเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ ตรึงกำลัง คัดกรองเข้ม และบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด เพื่อปกป้องอธิปไตย คุ้มครองประชาชน และสร้างความเชื่อมั่นในพื้นที่ชายแดน
พล.ต.ท. ยิ่งยศ เปิดเผยว่า คำสั่งดังกล่าวเป็นไปตามข้อสั่งการของ พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ให้ตำรวจภูธรภาค 2 เพิ่มความเข้มข้นในการเฝ้าระวังและสกัดกั้นเหตุร้าย โดยเฉพาะตามแนวชายแดนที่ติดกับประเทศกัมพูชา ซึ่งกำหนดให้เป็น ‘พื้นที่เฝ้าระวังพิเศษ’
ในการนี้ ได้มีการระดมกำลังจากหลายหน่วยงาน ทั้ง ตำรวจทางหลวง ตำรวจตระเวนชายแดน และหน่วยปฏิบัติการพิเศษ เพื่อตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ตรวจสอบยานพาหนะและบุคคลต้องสงสัย ทั้งในเส้นทางหลัก เส้นทางรอง รวมถึงจุดพักคอยและที่พักอาศัยที่ต้องสงสัย
ผบช.ภ.2 ยังกล่าวเน้นย้ำถึงการทำงานเชิงรุก โดยให้เจ้าหน้าที่ “สืบสวนหาข่าวในพื้นที่อย่างใกล้ชิด วางแผนเผชิญเหตุล่วงหน้า และสนับสนุนภารกิจของทุกหน่วยอย่างเป็นระบบ”
นอกจากนี้ ยังมีการจัดตั้งชุดสืบสวน-เคลื่อนที่เร็ว-ยุทธวิธีพิเศษ เพื่อปฏิบัติงานลงพื้นที่ในจุดสำคัญต่าง ๆ อาทิ ตลาดนัด สถานีขนส่ง สถานที่ท่องเที่ยว และจุดที่มีประชาชนหนาแน่น เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน พร้อมทั้งประสานความร่วมมือกับฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ความมั่นคง และพนักงานรักษาความปลอดภัยในพื้นที่
มาตรการที่สำคัญอีกประการคือ การกำชับให้เจ้าหน้าที่สายตรวจและจราจรทุกนาย ‘เปิดสัญญาณไฟวับวาบ’ ขณะปฏิบัติหน้าที่ เพื่อแสดงตัวตนให้ชัดเจน และใช้ยุทธวิธี Stop-Walk-Talk ในการพบปะ พูดคุย และทำความเข้าใจกับประชาชนในชุมชนอย่างต่อเนื่อง
มาตรการทั้งหมดนี้ถือเป็นการยกระดับความปลอดภัยเชิงรุกอย่างจริงจัง เพื่อป้องกันการลักลอบ การกระทำผิด หรือการก่อเหตุร้ายในพื้นที่ ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยอีก
โดย พล.ต.ท. ยิ่งยศ ย้ำว่า “เจ้าหน้าที่ทุกนายต้องปฏิบัติภารกิจด้วยความตั้งใจสูงสุด เพื่อประชาชนและประเทศชาติ”
ประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสหรือข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานได้ที่สถานีตำรวจใกล้บ้าน หรือ สายด่วน 191 ตลอด 24 ชั่วโมง