สถานการณ์ในอัฟกานิสถานเรียกได้ว่าถึงขั้นวิกฤต หลังชาวบ้านและทีมกู้ภัยต้องใช้มือเปล่าขุดซากปรักหักพังของอาคารเพื่อช่วยเหลือผู้ที่รอดชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหว ขณะเจ้าหน้าที่เดินทางมายังพื้นที่ประสบภัยซึ่งอยู่ในเขตชายแดนของประเทศได้อย่างยากลำบาก
เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน เกิดแผ่นดินไหวแม็กนิจูด 5.9 ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอัฟกานิสถาน ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตทะยานแตะ 1,000 ราย ส่วนผู้บาดเจ็บอยู่ที่ประมาณ 1,500 ราย โดยวานนี้ (23 มิถุนายน) ได้เกิดอาฟเตอร์ช็อกขึ้นอย่างน้อย 3 ครั้งใกล้กับศูนย์กลางแผ่นดินไหว ทำลายอาคารบ้านเรือนเพิ่มขึ้นอีกบางส่วน ขณะประชาชนตกอยู่ในความหวาดกลัวอย่างมาก
พื้นที่ประสบภัยหลายแห่งเป็นหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกลบนเชิงเขา การสื่อสารและการเดินทางจึงทำได้ยาก ขณะเจ้าหน้าที่ที่สามารถเดินทางไปยังพื้นที่ประสบเหตุได้ต้องใช้มือเปล่ารื้อซากอาคารเพื่อช่วยผู้รอดชีวิต เพราะอัฟกานิสถานขาดแคลนแม้กระทั่งอุปกรณ์หนักที่จะใช้สำหรับกู้ภัย
โมฮัมหมัด อิสมาอิล มูอาวิยาห์ (Mohammad Ismail Muawiyah) โฆษกผู้บัญชาการกองทัพตาลีบันระดับสูงในจังหวัดปักติกา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า “เราไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่ได้ เครือข่ายการสื่อสารอ่อนเกินไป เรากำลังพยายามจะอัปเดตข้อมูลใหม่จากพื้นที่”
เมื่อช่วงเช้าวานนี้ มีผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือจากพื้นที่ต่างๆ แล้วประมาณ 1,000 คน โดยโฆษกกระทรวงสาธารณสุขของอัฟกานิสถานระบุว่า ขณะนี้ทางการได้กระจายความช่วยเหลือไปยังพื้นที่ประสบภัยแล้ว แต่ยังขาดแคลนความช่วยเหลืออยู่อีกมาก เพราะการเดินทางเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากแผ่นดินไหวทำให้ซากหินและอาคารถล่มลงมาปิดถนน ประกอบกับเกิดดินถล่มจากฝนที่ตกหนักช่วงก่อนหน้านี้
ภัยพิบัติครั้งรุนแรงที่คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุดในรอบ 20 ปีของประเทศมีขึ้นท่ามกลางวิกฤตการณ์หลายอย่างที่ชาวอัฟกานิสถานต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นภาวะเศรษฐกิจถดถอย วิกฤตมนุษยธรรมที่เลวร้ายลงเรื่อยๆ ขณะที่ภาคสาธารณสุขก็ไม่มีเงินทุนมากพอจะช่วยเหลือผู้ประสบภัย เนื่องจากนานาประเทศพากันระงับความช่วยเหลือหลังรัฐบาลตาลีบันเข้ายึดครองอัฟกานิสถานเมื่อปีที่ผ่านมา
ฮากิมุลเลาะห์ (Hakimullah) ผู้รอดชีวิตรายหนึ่งเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า “เราอยากให้คนทั้งประเทศมาที่นี่เพื่อช่วยเหลือเรา เราไม่มีอะไรสักอย่างเลย แม้แต่เต็นท์จะอยู่ก็ไม่มี”
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้นานาชาติได้พยายามประสานงานกับรัฐบาลตาลีบันเพื่อส่งความช่วยเหลือไปยังพื้นที่แล้ว โดยโครงการ World Food Programme ขององค์การสหประชาชาติ (UN) ได้จัดส่งอาหารและอุปกรณ์ด้านโลจิสติกส์ถึงพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบแล้ว ขณะที่ปากีสถานก็ได้จัดส่งอาหารและอุปกรณ์ช่วยเหลือมา 8 คันรถ ส่วนอิหร่านและกาตาร์ก็ส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมมาทางเครื่องบิน 2 ลำด้วยกัน
แฟ้มภาพ: Sayed Khodaiberdi Sadat / Anadolu Agency via Getty Images
อ้างอิง: