ถ้านิยามความรักคือ ‘ความสุข’ เราเชื่อว่ามีหลายคนที่นิยามความรักออกมาเป็น ชายปริศนาที่ไม่เคยแม้แต่เห็นหน้าค่าตา และทุกคนเรียกเขาว่า ‘เอก Heartrocker’
นอกจากชื่อที่หลายคนเรียกกันอย่างคุ้นปากว่า ‘พี่เอก’, ‘ตาเหยก’, ‘พี่ลูกดอก’ เสียงกรี๊ดที่เป็นเอกลักษณ์ เสียงกระซิบใกล้ไมค์ที่ทำให้ใจสั่น เสียงหัวเราะสุดอร่อยไม่มีใครเหมือน สกิลเพลย์ในเกมที่เอกอุ (โดยเฉพาะการขับรถที่อย่าให้เขาได้จับพวงมาลัยเป็นอันขาด!)
เกิดวันที่ 8 พฤษภาคม เริ่มทำแชนแนล Heartrocker ตั้งแต่ปลายปี 2012 (ไม่นับแชนแนลแรกที่ปิดไปแล้ว) จนมี ‘ชาวร้อนใน’ กด Subscribe แชนแนล Heartrocker มากกว่า 7 ล้านบัญชี เราก็แทบไม่รู้ข้อมูลอะไรเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้อีกเลย
ถ้าพูดกันตามความเป็นจริง สายสัมพันธ์ระหว่างเราและเขาจะแสนบางเบา เขาอาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีเราอยู่บนโลกใบนี้ แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับความจริงที่ว่า เรามีผู้ชายคนนี้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตไปแล้ว
นอกจากความสุข ความสนุก มุกตลกโบ๊ะบ๊ะ (ที่ส่วนใหญ่จะชงเอง จบเอง ขำเอง นักเลงพอ) สิ่งที่เราได้รับอยู่เสมอคือ ‘แรงบันดาลใจ’ ที่เขาสอดแทรกเอาไว้ ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม
ถ้าเลื่อนลงไปที่ช่องคอมเมนต์ในทุกๆ คลิป เราจะเห็นคอมเมนต์มากมายที่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
“หนูกำลังเศร้าอยู่ แต่พอได้ดูคลิปพี่เอกก็รู้สึกดีขึ้นมาแล้ว”
“ขอบคุณที่เป็นความสุขให้พวกเราอยู่เสมอ”
“สักวันหนึ่งผมจะต้องเป็นสตรีมเมอร์แบบพี่เอกให้ได้”
หลายๆ คนพยายามฝึกวาดภาพแฟนอาร์ตให้ดีที่สุด เพื่อหวังว่าจะได้ไปอยู่บนปกคลิปของช่อง Heartrocker สักครั้ง และแน่นอนว่าเจ้าของช่องอย่างเอกไม่ได้เฟ้นหาเฉพาะภาพที่สวยที่สุด ขอเพียงแค่เขาเห็นความรัก ความตั้งใจ ที่ส่งผ่านลายเส้นนั้นๆ มา เขาก็พร้อมที่จะหยิบภาพนั้นมาเป็นปกเพื่อให้กำลังและมอบความสุขให้ผู้คนทันที
ความรักในการเล่นเกมของคนคนหนึ่ง ได้แปรรูปเป็นความสุข ความฝัน และแรงบันดาลใจให้กับคนที่ชอบเล่นเกมอีกนับไม่ถ้วน
และเรามั่นใจได้ว่าท่ามกลางสตรีมเมอร์มากมาย ชื่อของเอก Heartrocker จะเป็นหมุดหมายให้ ‘เจ้าของความฝัน’ เหล่านั้นไม่หลงทาง และสร้างคอนเทนต์เพื่อส่งมอบความสุขให้กับคนอื่นๆ และพัฒนาวงการเกมต่อไป
แม้จะเล่นเกมไม่จบปล่อยให้แฟนๆ อารมณ์ค้างอยู่หลายครั้ง แต่เราก็ได้เห็นความ ‘ใจสู้’ ที่ไม่เคยยอมแพ้ แม้จะสู้บอสจนแพ้ครั้งแล้วครั้งเล่าในเกมสายโหดอย่าง Bloodborne, Dark Souls, Nioh, Sekiro: Shadows Die Twice ฯลฯ ทุกครั้งที่เขาล้มลง เขาจะจดจำรูปแบบการต่อสู้ของบอสตัวนั้นๆ เอาไว้ เอามาพลิกแพลง พัฒนาสกิลเพลย์ของตัวเองจนเอาชนะได้ในที่สุด
นอกจากความใจสู้ในเกมแอ็กชัน เรายังได้เห็นความพยายามสร้างสรรค์การเล่นเกมด้วยจินตนาการไร้ขีดจำกัดให้มากที่สุด จากเกมแนว Sandbox อย่าง Planet Coaster และ Planet Zoo ที่เขาลงทุนใช้เวลาวันละหลายชั่วโมง (ตัดออกมาเป็นคลิปประมาณ 1 ชั่วโมง) เพื่อสร้างสวนสัตว์และสวนสนุกที่ตั้งใจเก็บรายละเอียดทุกอย่าง ตั้งแต่ตำแหน่งที่ตั้ง, สถาปัตยกรรม, ทางเดิน, ต้นไม้ ใบหญ้า, ก้อนหินที่ใช้แก้ปัญหาทุกอย่าง ไปจนถึง ‘นกอ้วน’ ที่แสนน่ารัก
เขาคือเกมเมอร์ที่ให้ความสำคัญกับ ‘เนื้อเรื่อง’ มากๆ คุยกับ NPC แทบทุกตัว, ดูคัตซีนอย่างตั้งใจ แปลเนื้อหาอย่างละเอียดให้ผู้ชมรู้เรื่องราวทั้งหมดด้วยทักษะภาษาอังกฤษที่ยอดเยี่ยม และแน่นอนเป็นแรงบันดาลใจสำคัญให้ใครหลายคนอยากพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษให้ได้อย่างเขา
เราได้เห็นความ ‘ใส่ใจ’ ความรู้สึกของตัวละครในเกมอย่างถึงที่สุด ทุกครั้งที่เล่นเกม เขาไม่ได้เป็นแค่ ‘ผู้เล่น’ ที่บังคับตัวละครไปทำภารกิจ แต่พยายามพาคนดูเข้าไปนั่งอยู่กลางหัวใจของตัวละคร เขาเขินเมื่อตัวละครมีความรัก สนุกเมื่อตัวละครสนุก และเศร้าเมื่อตัวละครเศร้า สารภาพตามตรงว่าเราเกือบเสียน้ำตาเมื่อเขาพาเราไปรู้จักกับ ‘น้องฟอร์จูน’ เด็กสาวผู้โชคร้ายในเกม Little Misfortune
นอกจากนี้เขายังใช้เนื้อหาในเกมเพื่อส่งข้อความสะท้อนสังคมบอกไปถึงคนดูอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรัก ความฝัน ความยุติธรรม ไปจนถึงความเท่าเทียมทางเพศ
ครั้งหนึ่งที่เราประทับใจมากๆ คือตอนที่เล่น Final Fantasy VII: Remake ถึงตอนที่ตัวเอกอย่าง คลาวด์ ต้องแต่งตัวเป็นผู้หญิง เต้นรำกับตัวละคร LGBTQ อย่างแอนเดรีย แล้วมีประโยคที่ว่า
“ไม่มีอะไรต้องอาย ความงดงามที่แท้จริงอยู่ที่จิตใจ ไม่เกี่ยวกับเพศชายหรือเพศหญิง อย่าหวั่นกลัวไปเลย”
เขาปรบมือและกล่าวชื่นชมประโยคดังกล่าว เพื่อส่งข้อความถึงคนดูที่อาจช่วยทำลายกำแพงทางเพศที่อยู่ในใจของใครหลายคนลงไป
หรือแม้กระทั่งตอนเล่นเกม Little Nightmares 2 เขาก็ทำให้คนดูทั้งเอาใจช่วยน้อง ‘ซิกซ์’ และ ‘โมโน’ ฝ่าภารกิจสุดหลอน ไปพร้อมๆ กับช่วยตั้งคำถามและหาคำตอบว่ามีสิ่งใดบ้างที่กัดกินความฝันและชีวิตของเด็กๆ อีกหลายคนบนโลกผ่านเนื้อหาที่ทั้งหนักและดาร์กของเกมนี้
ในฐานะเกมเมอร์ เขายังคิดถึงภาพรวมของผู้พัฒนาเกม โดยเฉพาะผลงานจากคนไทย เหมือนที่เห็นได้จากเกม Home Sweet Home ที่ในภาค 1 เขาเคยสตรีมเกมนี้ให้ดูแล้วประสบความสำเร็จอย่างมาก ทั้งเวอร์ชันเดโมที่มีคนดูสูงที่สุดถึง 10.9 ล้านวิว รวมทั้งเวอร์ชันจริงความยาว 5 ชั่วโมง 15 นาที ที่มียอดวิวสูงสุด 10.7 ล้านวิว
เมื่อบริษัทผู้พัฒนาเกมอย่าง Yggdrazil Group พัฒนา Home Sweet Home ภาค 2 ออกมา แน่นอนว่ามีแฟนคลับเรียกร้องให้เขาเล่นเกมนี้แบบถล่มทลาย แต่สุดท้ายเขาตัดสินใจที่จะไม่เล่นเกมนี้ เพราะเขารู้ดีว่าการเล่นเกมผีจะสนุกที่สุดเมื่อเล่นโดยไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับเกมนั้นมาก่อน ยิ่งมีคนดูเขาเล่นเกมนี้มากเท่าไร โอกาสที่คนจะกลับไปซื้อเกมนี้มาเล่นด้วยตัวเองก็จะยิ่งน้อยลงเท่านั้น
จนกระทั่งล่าสุดที่เกม Home Sweet Home ออกโหมด Survival ให้เล่นแบบออนไลน์ที่ไม่ส่งผลกับเนื้อเรื่องขึ้นมา เขาถึงเริ่มชวนเพื่อนๆ มาสตรีมเกมและ ‘กรี๊ด’ ให้ทั้งคนดูและผู้พัฒนาเกมได้ชื่นใจ
นอกจากเกมเนื้อเรื่องที่เป็นเอกลักษณ์ เอก Heartrocker ยังแสดงให้เห็นถึงพลังของ ‘มิตรภาพ’ ผ่านเกมออนไลน์หลายๆ เกม แต่ที่โดดเด่นมากๆ คือใน Dead by Daylight ที่เขาชอบเรียกว่า ‘ดบดล’ ที่มักจะชวนแก๊ง ‘โบ๊ะบ๊ะแฟมิลี่’ มาสร้างเสียงหัวเราะให้กับคนดู พร้อมกับเสียงกรี๊ดและทำให้ประโยคสั้นๆ ที่ว่า “กล้าช่วยพี่ด้วย!!!” กลายเป็นประโยคที่มีเสียง หรือเกมอย่าง Among Us ที่ทำให้ทุกคนได้เห็นทั้งพลังแห่งมิตรภาพ และพลังแห่งการหลอกลวงไปพร้อมๆ กัน
รวมทั้งโปรเจกต์ ‘สายด่วนป่วน Free Fire’ ที่ดูเหมือนรายการเข้าไปป่วนคนในเกมสนุกๆ แบบแรนด้อม ที่แฟนคลับหลายคนถึงกับบอกว่าต้องใช้ ‘แต้มบุญ’ สูงขนาดไหน ถึงจะได้เล่นเกมกับเอก Heartrocker สักครั้ง เพราะคนที่ได้เล่นด้วยส่วนใหญ่จะไม่รู้จัก Heartrocker!
ก็ได้เกิดโมเมนต์แห่งความประทับใจ เมื่อเขาเข้าไปเจอกับผู้เล่นคนหนึ่ง ที่ตั้งใจว่าจะชวนคุยสนุกๆ แต่ได้คำตอบกลับมาว่า
“ผมทำงานโรงเก็บขยะ ไม่ได้มีงานสูงอย่างเขา ตอนนี้ผมเจ็บปวดอยู่ เพราะพ่อแม่ผมเพิ่งเสียไปไม่กี่วันนี้เอง ทำอย่างไรก็ไม่หาย เรายังคิดถึงเขาอยู่ จริงๆ แล้วที่ผมเล่นเกมเพื่อให้มันหายเครียดเฉยๆ”
สิ่งที่ทำให้เราประทับใจมากๆ คือ เอกมองเรื่องนี้อย่างจริงจัง ใช้ช่วงเวลาไม่กี่นาทีที่อยู่ในเกมด้วยกันเพื่อปลอบและให้กำลังใจผู้เล่นคนนี้ให้ได้มากที่สุด
“เราสัมผัสได้ถึงความเสียใจของนายนะ เราบอกไว้ตรงนี้เลย มันไม่แปลกที่นายยังคิดถึง เราก็เสียแม่ไปเหมือนกันเมื่อนานมาแล้ว ที่เราเศร้าเพราะความคิดถึง แต่ว่าเราก็ต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ชีวิตมันต้องไปต่อได้ เพราะว่าแม่ก็คงอยากให้เราไปต่อได้แน่ๆ
“ส่วนเรื่องทำงานโรงงานขยะของนาย ไม่ต้องกังวลเลยว่ามันต่ำต้อยหรือว่าอะไร มันคือบทบาท ทุกคนมีหน้าที่ของตัวเอง ขยะต้องมีคนกำจัด ถ้าไม่มีหน้าที่ตรงนี้ก็ไปต่อไม่ได้
“เราขอเป็นอีกหนึ่งแรงใจให้นายเดินหน้าต่อไปนะ ถือว่าคืนนี้โชคชะตาส่งให้เรามาอยู่กับนาย เพื่อให้นายไม่เหงาแล้วกัน แต่ละวันก็ต้องผ่านไปให้ได้ วันนี้ก็ถือว่าให้เราเป็นอีกแรงให้ผ่านวันนี้ไปได้แล้วกันนะ”
ไม่ใช่แค่ผู้เล่นคนนั้นที่ได้รับกำลังใจ แต่คนดูทั้งหมดก็ได้รับข้อความอันแสนประทับใจนี้ด้วยเช่นกัน
นี่เป็นเพียงตัวอย่างส่วนหนึ่งที่ทำให้ Heartrocker เป็นมากกว่าแชนแนลยูทูบที่ประสบความสำเร็จ เพราะสำหรับเรา Heartrocker กลายเป็น ‘ครอบครัว’ ที่มีชายปริศนาที่ไม่เคยเปิดเผยหน้าตาเป็นแหล่งกำเนิดพลังงานแห่งความสุขที่รวมทุกคนไว้ด้วยกัน
สุดท้ายในฐานะแฟนคลับและคนทำคอนเทนต์คนหนึ่ง เรามีความฝันหนึ่ง (และน่าจะเป็นความฝันของใครอีกหลายคน) ที่คิดเอาไว้ตลอดว่า ถ้าเป็นไปได้ เราอยากมีโอกาสพูดคุยกับผู้ชายคนนี้สักครั้งแบบไม่จำเป็นต้องเห็นหน้ากันก็ได้
อย่างน้อยที่สุด ก็เพื่อที่จะได้บอกความในใจกับเขาแบบตรงๆ ว่า “ขอบคุณที่เป็นความสุขให้กับพวกเรามาโดยตลอด”
และ “See you again yesterday อย่าลืมเป็นร้อนในนะครับ”
* หมายเหตุ: ขอขอบคุณเจ้าของภาพแฟนอาร์ต เอก Heartrocker ทุกท่าน และขออภัยที่ไม่ได้ติดต่อเพื่อขออนุญาตนำมาใช้ด้วยตัวเองนะครับ
* หมายเหตุ: บทความนี้ดัดแปลงและอัปเดตข้อมูลเพิ่มเติมจากบทความ #วันอะไรกันครับเนี่ย สุขสันต์วันเกิด เอก Heartrocker ชายปริศนา ผู้มาพร้อมความรัก ความสุข และแรงบันดาลใจ – THE STANDARD